นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องของแผนการศึกษาการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และไบโอแมส โดยมีความสนใจในเมียนมาและลาว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เบื่องต้นรูปแบบการลงทุนมีความเป็นไปได้ทั้ง การเข้าซื้อกิจการ (M&A) ,การร่วมทุนกับพันธมิตร (JV) และลงทุนเอง
สำหรับแหล่งเงินลงทุน บริษัทฯ มีกระแสเงินสดที่เพียงพอหากมีการลงทุนเกิดขึ้น โดยปัจจุบันมีเงินสดในมืออยู่ที่ 400-500 ล้านบาท และอาจจะมีการกู้ยิมจากสถาบันทางการเงินด้วย จากมีหนี้สินต่อทุน D/E อยู่ที่ 1.4 เท่า
นายชัชพล กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในปี 63 จะมีรายได้เติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการเติบโตของธุรกิจเดิมที่มีอยู่ หรือธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจพลังงาน ประกอบกับการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก คาดหวังสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 50%
"ปีนี้เรายังมุ่งเรื่องของ Operation Excellent เพื่อลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และศึกษาการลงทุนเข้าซื้อกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มพลังงานทางเลือกมองภาครัฐก็น่าจะมีการเปิดประมูลออกมา เราก็เตรียมความพร้อมที่จะเข้าลงทุน เป้าหมายในอนาคตเราตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้เป็นสองเท่า หรือแตะ 3,000 ล้านบาทในปี 63 และมี EBITDA คิดเป็น 15% ของรายได้ โดยมีการเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุลกับทุก Stakeholders "นายชัชพล กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้ นายชัชพล กล่าวอีกว่า บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ 1,800 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,381.11 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24.71 ล้านบาท
"ทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/60 โดยเชื่อว่าธุรกิจกลุ่มเทรดดิ้งยังคงเติบโตดี และส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมทุน บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ดีขึ้น จากการปรับเพิ่มการใช้ไบโอดีเซล เป็น B7 คาดว่าธุรกิจไบโอดีเซลน่าจะดีขึ้น ส่วนธุรกิจพลังงานก็น่าจะอยู่ในระดับที่ทรงตัว ซึ่งไม่มีปัจจัยเสี่ยงเข้ามา"นายชัชพล กล่าว
ในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงงานผลิตสารเคมีในผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ของ บริษัท ยูเอซี แอ๊ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAPC), โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP), โรงไฟฟ้าเสาเถียรและโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า และโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่เต็มปี ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 12 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ ยังจะได้รับผลบวกจากการที่กระทรวงพลังงานปรับเพิ่มการใช้ไบโอดีเซลจาก B5 ไปเป็น B7 ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.อีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านเคมีภัณฑ์อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสี , บรรจุภัณฑ์และอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น
นายชัชพล กล่าวถึงผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 1/60 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 377.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.74% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 326.42 ล้านบาท
ขณะที่ EBITDA หรือกำไรก่อนหักภาษีและดอกเบี้ยอยู่ที่ 69.50 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ที่บริษัทได้ลงทุนในช่วงที่ผ่านมา อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (solar roof top) , โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ , โรง PPP และโรงงานผลิตสารเคมีในผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ UAPC