นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซัสโก้ (SUSCO) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการขายน้ำมันในปีนี้จะเติบโตกว่า 5% มาที่กว่า 2 หมื่นล้านบาท จากระดับ 1.9 หมื่นล้านบาทในปีก่อน จากปริมาณการขายน้ำมันในปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้เติบโตราว 8% มาที่ 1,077 ล้านลิตร และราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงช่วยหนุนมูลค่าการขายให้เพิ่มขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความต้องการใช้น้ำมันในประเทศปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 3-4% ชะลอตัวจากปีก่อนที่เติบโตระดับ 6-7% หลังทิศทางเศรษฐกิจในประเทศยังทรงตัว ขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) สำหรับยานยนต์ก็ยังหดตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่หดตัวลงกว่า 10% และความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ก็ชะลอตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่ตลาดหดตัวราว 8-10% ซึ่งให้บริษัทได้ปรับตัวด้วยการจำหน่าย LPG และน้ำมันอยู่ในสถานีบริการเดียวกันเพื่อลดผลกระทบ รวมถึงการรุกธุรกิจค้าปลีกในพื้นที่สถานีบริการด้วย เช่น การให้เช่าพื้นที่เปิดร้าน LAWSON 108 ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 10 แห่ง ,ร้านกาแฟ ,ร้านอาหาร เป็นต้น
"ปริมาณขายปีนี้จะเติบโตประมาณ 8% จาก 1,077 ล้านลิตรในปีที่แล้ว ในแง่มูลค่าปีนี้คงสูงอยู่แล้ว เพราะราคาน้ำมันต่างกัน ปีนี้ราคาน้ำมันสูง คาดว่าทั้งปีน่าจะทำได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท ไตรมาสแรกเราก็ทำได้แล้ว 6 พันล้านบาท ส่วน demand ปีนี้ growth ไม่เยอะ 3-4% ปีที่แล้วโตเยอะ 6-7% ปีนี้ทรง ๆ เศรษฐกิจก็ทรง ๆ แต่โชคดีราคาน้ำมันขยับ"นายชัยฤทธิ์ กล่าว
อนึ่ง ในไตรมาส 1/60 บริษัทมีปริมาณขายน้ำมันรวม 284.96 ล้านลิตร ลดลง 1.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีรายได้รวม 5.96 พันล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นรายได้จากการขาย 5.89 พันล้านบาท ส่วนทั้งปี 59 มีรายได้รวม 1.94 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นรายได้จากการขาย 1.9 หมื่นล้านบาท
นายชัยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนราว 300 ล้านบาท เพื่อขยายและปรับปรุงสถานีบริการ โดยปีนี้มีแผนจะเปิดสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 250 แห่ง จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 230 แห่ง ขณะที่มีสถานีบริการ LPG อยู่ทั้งหมด 8 แห่ง และมี สถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) จำนวน 12 แห่ง ซึ่งก็มีการต่อสัญญาซื้อขาย NGV กับบมจ.ปตท. (PTT) ต่อเนื่อง
สำหรับการที่ผู้ค้าน้ำมันต่างหันมารุกเปิดสถานีบริการน้ำมันมากขึ้นในช่วงนี้ ก็ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาฟองสบู่ได้ในช่วง 4-5 ปี ข้างหน้า เนื่องจากปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันเติบโตราว 10-20% ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันเติบโตแค่ 3-4% แต่ในส่วนของบริษัทจะเน้นการเปิดสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่ท่องเที่ยว เมืองใหญ่ และในภาคใต้ ที่ยังมีความต้องการใช้น้ำมันอยู่มาก พร้อมทั้งยังเห็นว่ารัฐบาลควรจะยังคงนโยบายยกเลิกการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ตามแผนเดิมเพราะจะเป็นภาระต่อผู้ประกอบการที่ต้องมีหัวจ่ายในสถานีบริการน้ำมันมากเกินไป