หุ้น MINT ราคาขยับขึ้น 2.74% มาอยู่ที่ 37.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท มูลค่าซื้อขาย 242.22 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.46 น. โดยเปิดตลาดที่ 36.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 37.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 36.75 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) มูลค่าที่เหมาะสม 41 บาท โดยมองราคาหุ้นที่อ่อนแอก่อนหน้านี้ ได้รับรู้ปัจจัยลบจากการบริโภคและการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลง และช่วงไตรมาส 2/60 ที่เป็น Low Season แล้ว ด้านความเสี่ยงต่อผลตอบแทนน่าสนใจขึ้น (EV/EBITDA ที่ 15 เท่า) และอัพไซด์กว่า 12% รวมถึงการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร
ธุรกิจโรงแรมของ MINT ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยโรงแรมที่ MINT เป็นเจ้าของ (49% ของรายได้) คิดเป็น RevPar โตจากภายในและทั้งระบบ +2%/+1% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนการฟื้นตัวเล็กน้อยของในไทย (+1%) หลังจากที่โดนกระทบในช่วงไตรมาส 4 และการดำเนินงานในบราซิลที่โตขึ้น 27% หลังการตกแต่ง ในขณะเดียวกันการดำเนินงานในโปรตุเกส (-6%) ได้รับผลกระทบจากการปิดปรับปรุงโรงแรม 3 แห่ง และคาดว่าจะกลับมาเติบโตในระดับ 2 หลักหลังการปิดปรับปรุงโรงแรม Tivoli Oriente/Tivoli Marina แสดงถึงเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว ในขณะที่โรงแรมที่ Maldives โดนปัจจัยลบในไตรมาส 1 โดยนับจากสิ้นเดือนมี.ค. ดีขึ้นทุกเดือนจากการแข่งขันด้านราคาที่ลดลง ในขณะที่ช่วง Low Season ใน Zambia กดดันการดำเนินงานในแอฟริกาลง 14% ในช่วงไตรมาส 1/60 และจะหนุนให้ RevPar ดีขึ้นในช่วงเม.ย. 60 เป็นต้นไป
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โครงการ Layan และเชียงใหม่มียอดขายเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/60 แต่คาดว่าจะชะลอตัวลงในไตรมาส 2/60 คาดรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ ฟื้นตัวหนุนโดยโครงการ Avadina Hill ที่เปิดตัวในปี 2561 และ Turtle Village Mai Khao 2 ในช่วงไตรมาส 2/62
ส่วนธุรกิจอาหาร อัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) และอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSSG) ฟื้นตัวเล็กน้อยจากช่วงไตรมาส 4/59 แต่ยังต่ำกว่าฐานในช่วงครึ่งแรกของปี 59 จากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จากการดำเนินงานของธุรกิจอาหารของ MINT ที่ดีกว่าบมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) สะท้อนถึงแผนในการคงส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศ ในขณะที่แผนในการกระจายธุรกิจของ MINT ดีขึ้นจากการเติบโตใน CLMV และจีนชดเชยผลกระทบของออสเตรเลียและสิงคโปร์