เอเชียเวลท์ คาด SET Index แกว่งกรอบ 1,537-1,557 จุด อิงปัจจัยสหรัฐเป็นหลัก, เชียร์"ซื้อ"SAWAD

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 22, 2017 15:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ มองดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,537-1,557 จุด โดยยังคงถูกกำหนดทิศทางโดยหุ้น Wall street หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีสงสัยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้รับความร่วมมือจากรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมาและกรณีการปลดอดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ซึ่งหากเป็นความจริงนายทรัมป์อาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และถูกถอดถอนจากตำแหน่งได้ ซึ่งจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดี และตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1/60 ส่วนใหญ่ออกมาดี โดยผลประกอบการสหรัฐฯน่าจะออกมาดีมากหรือเติบโตประมาณ 15% ยุโรป น่าจะเติบโตถึง 20% และไทย เติบโตจริง 21%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งตลาดน่าจะให้น้ำหนักกับผลประกอบการมากกว่าข่าวลบข้างต้น ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนของสหรัฐยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกระยะเวลาหนึ่ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้เปิดมาเป็นบวก

นอกจากนี้ สัปดาห์นี้นายทรัมป์จะเดินทางไปพบผู้นำของพันธมิตรในตะวันออกกลาง และผู้นำสหภาพยุโรป ในวันที่ 24-25 พ.ค.ที่กรุงบรัสเซลล์ และจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดของ NATO วันที่ 26 พ.ค.ที่เกาะ Sicily ประเด็นสำคัญที่จะมีการพูดคุย ได้แก่ เรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน ความร่วมมือกับ NATO และนโยบายของสหรัฐต่อปัญหาชั้นบรรยากาศของโลกตามข้อตกลงปารีสที่ทรัมป์แสดงท่าทีจะไม่ยอมรับ ทำเนียบขาวหวังว่าการไปเยือนต่างประเทศของทรัมป์ในครั้งนี้จะช่วยดึงความสนใจออกจากสถานการณ์ทางเมืองที่ยังเป็นประเด็นอยู่ในสหรัฐ

ด้านปัจจัยในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะประชุมในวันพุธที่ 24 พ.ค.นี้ คาดว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยและปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินแต่อย่างใด แม้เศรษฐกิจไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน

สำหรับหุ้น Trading Idea สัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ เลือกหุ้นที่มีผลประกอบการดีมากในไตรมาส 1/60 และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปอีกในระยะต่อไป คือ SAWAD ของ บมจ.ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 ให้ราคาเป้าหมายที่ 61.00 บาท ทั้งนี้ เราคาดว่า SAWAD ยังแสดงการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาสที่เหลือของปี ผลักดันโดยการบริโภคภาคครัวเรือนที่แข็งแกร่งมากต่อเนื่องและภาคเกษตรกรรมที่เริ่มดีขึ้น โดยในไตรมาส 1/60 ตัวเลขการบริโภคภาคครัวเรือนของไทยเพิ่มขึ้น 3.2% YoY ในขณะที่ภาคเกษตรกรรมขยายตัวเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน ด้วยอัตราแข็งแกร่งถึง 7.7% YoY

การที่ SAWAD มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และสาขาส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดทำให้บริษัทจะได้ประโยชน์อย่างมากจากปัจจัยข้างต้น และจะสามารถเข้าถึงความต้องการสินเชื่อของตลาดที่ยังไม่มีใครเข้าถึง (untapped market) ได้เหนือคู่แข่งรายอื่น

นอกจากนี้ เราประทับใจกับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/60 ที่รายงานกำไรสุทธิที่ 690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% QoQ และ 64.3% YoY รวมถึงการเติบโตของสินเชื่อบริษัทที่เพิ่มขึ้น 4.3% QoQ และ 45.9% YoY ขับเคลื่อนโดยการขยายเครือข่ายสาขา แล้วยังหนุนโดยการคำนวณค่ายุติธรรมที่บริษัทมีส่วนได้เสียในการถือหุ้น BFIT

“เราคาดปีนี้บริษัทจะขยายจำนวนสาขาถึง 2,400 สาขาจาก 2,188 สาขาในไตรมาส 1/60 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตสินเชื่อในเมียนมาร์จะอยู่ที่ราว 2-3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากประมาณ 500 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เราคาดสินเชื่อโดยรวมของบริษัทปีนี้จะเติบโตถึง 40% และคาดว่ากำไรจะเติบโตที่ 33.2% ในปี 60 และ 30.2% ในปี 61"นายวรุตม์ กล่าว

ด้าน Technical รูปแบบราคา มีความแข็งแกร่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน จากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อรายวัน รายสัปาดาห์ และรายเดือน และยังอยู่ในช่วงของการทำ New High ได้อย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 55 บาท ทั้งนี้ SAWAD มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 47 บาท มีแนวต้านที่ 52.00, 52.25, และ 53.00 บาท และแนวรับที่ 51.50, 51.25 และ 50.50 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ