นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่าปีก่อน จากปีก่อนทำได้ 5,057 ล้านบาท โดยคงเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 1,000 ไร่ แม้ในไตรมาส 1/60 จะสามารถขายที่ดินได้เพียง 63 ไร่ โดยคาดว่าในไตรมาส 2/60 ยอดขายจะเติบโต เนื่องจากปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาขายที่ดินจำนวนหลายร้อยไร่ให้แก่ลูกค้าหลายรายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ,จีน,ยุโรป,เกาหลี เป็นต้น
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอนอยู่ราว 1,157 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้บางส่วน
บริษัทมองว่าหากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เกิดขึ้นจริงก็น่าจะส่งผลดีทำให้เกิดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ซึ่งบริษัทก็น่าจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยขั้นตอนของกฎหมายที่จะออกมารองรับโครงการดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของสำนักงานคณะกรรมการกฤษีกา จากนั้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาและนำเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อประกาศใช้ต่อไป
"เรามอง EEC จะเป็นตัวเข้ามาขับเคลื่อน และดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอย่างมาก ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อนิคมอุตสาหกรรมของเรา ที่จะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาโครงการฯ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีที่ดินในมือทั้งหมด 14,137 ไร่ แบ่งเป็น อมตะนคร 9,540 ไร่ และอมตะซิตี้ 4,597 ไร่"นายวิบูลย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังวางงบลงทุนปีนี้ไว้ราว 2,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาที่ดินและโครงสร้างพื้นฐานทั้งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร และอมตะซิตี้ จากปัจจุบันมีที่ดินในมือจำนวน 14,137 ไร่ แบ่งเป็น ที่ดินพร้อมขาย ,ที่ดินที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ,ที่ดินเชิงพักอาศัย และที่ดินที่เป็นบ่อน้ำและสนามกอล์ฟ เป็นต้น
สำหรับการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในต่างประเทศที่นอกเหนือจากประเทศเวียดนามแล้ว ปัจจุบันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนเพื่อจะเข้าไปพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในประเทศเมียนมา ,กัมพูชา และลาว ด้วย