นายวรวุฒิ ลีนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/60 ตามส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาเพิ่มขึ้น และมั่นใจว่ารายได้ทั้งปีจะมากกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 9.81 พันล้านบาท ตามกำลังผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 150 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ในประเทศจีน โดยในช่วงไตรมาส 1/60 ได้เริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว 140 เมกะวัตต์ และจะมีการ COD เพิ่มอีก 10 เมกะวัตต์ในช่วงไตรมาส 3/60 ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมปีนี้เพิ่มเป็น 2,070 เมกะวัตต์ จากปีก่อน 1,930 เมกะวัตต์
ขณะที่บริษัทเตรียมหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสาเฟสที่ 2 เป็นเวลา 3 สัปดาห์ในช่วงปลายไตรมาส 3/60 ถึงต้นไตรมาส 4/60 ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ และ หยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า BLCP อีก 70 วันตั้งแต่เดือนต.ค.นี้
"แม้ว่าบริษัทจะมีการปิดปรับปรุงโรงไฟฟ้าในช่วงไตรมาส 3/60 แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมั่นใจว่าผลประกอบการจะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเรามีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาจากโครงการในประเทศจีน ซึ่งจะเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 2/60 เพราะมีการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มไตรมาส"นายวรวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทมีแผนซื้อกิจการและพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติม โดยมองทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าก๊าซ โรงไฟฟ้าโซลาร์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ในประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย ลาว ญี่ปุ่น จีน แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/60
สำหรับแหล่งเงินลงทุนนั้น บริษัทมีความสามารถที่จะกู้เงินเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 4,300 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 0.14 เท่า และได้เตรียมงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 117 ล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่รวมงบซื้อกิจการ) เพื่อใช้ในโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา