(เพิ่มเติม) ICHI เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลัง"T247"วางตลาด มิ.ย.หวังชิงมาร์เก็ตแชร์ 10% ใน 5 ปี,มั่นใจรายได้-กำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 24, 2017 08:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท อิชิตัน พาวเวอร์ จำกัด ในเครือ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ส่ง T247 ไฮบริด เอนเนอร์จี้ดริ้งค์ ในรูปแบบพร้อมดื่มขนาดบรรจุ 280 มิลลิลิตร (มล.) ในขวด PET ราคา 15 บาททั้งสูตรโสมและน้ำผึ้ง และสูตรคอลลาเจนและซิงค์สำหรับผู้ชาย หรือทุกเพศทุกวัยที่ต้องการพลังงานสูงสำหรับการทำงานทุกรูปแบบ พร้อมวางจำหน่ายทั่วประเทศในเดือน มิ.ย.ตั้งเป้าทำยอดขาย 700 ล้านบาทภายในปีนี้ คาดหวังชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 10% ภายใน 5 ปี จากคาดเบียดแย่งได้ 2% ในปีนี้

ขณะที่ ICHI คาดว่าภาพรวมรายได้และกำไรในปี 60 จะทำได้ดีกว่าปีก่อน ที่มีรายได้ 5.3 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 368.48 ล้านบาท หลังปรับปรุงขนาดบรรจุภัณฑ์สินค้าเพื่อผลักดันอัตรากำไร และตลาดส่งออกฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าไตรมาส 1/60 จะทำผลงานต่ำสุดในรอบปี เนื่องจากได้รับผลกระทบโปรโมชั่นช่วงต้นปียังทำได้ไม่เข้าเป้า แต่เชื่อว่าตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เป็นต้นไปผลงานจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ ของ ICHI เปิดเผยว่า สาเหตุที่คาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะทำได้ดีกว่าปีก่อน เนื่องจากบริษัทยกเลิกสินค้าขนาด 290 มล. และลดการขายสินค้าขนาด 420 มล. เพราะเป็นสินค้าดังกล่าวให้มาร์จิ้นต่ำ

นอกจากนี้ยอดขายในต่างประเทศจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 500 ล้านบาท จากระดับ 9 ล้านบาทในปีก่อน โดยในช่วงไตรมาส 1/60 ทำยอดขายแล้วราว 250 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็จะมีการขยายตลาดได้ครบทั้ง CLMV โดยปัจจุบันขยายไปแล้วในประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม เหลือเพียงประเทศเมียนมา ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาและคาดว่าจะสามารถขายสินค้าเข้าไปได้เร็ว ๆ นี้

ล่าสุดบริษัท อิชิตัน พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ ได้เปิดตัวเครื่องดื่มทางเลือกใหม่ ภายใต้แบรนด์ T247 ไฮบริด เอนเนอร์จี้ดริ้งค์ ที่เป็นเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ที่สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน คนยุคใหม่ ที่มีความต้องการพลังงานสูงในการทำงาน โดยตั้งงบการตลาดไว้ 200 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มออกโฆษณาและวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนมิ.ย.60 เป็นต้นไป

ปีนี้บริษัทคาดหวังรายได้จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเพิ่มเข้ามาไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้รวมราว 10% โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดในปี 60 นี้อยู่ที่ราว 2% และ 5% ในปี 61 และภายในปี 64 คาดหวังมีส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 10%

นอกจากนี้ในช่วงปลายปีบริษัทได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1 ผลิตภัณฑ์ คือชาเขียวเพื่อสุขภาพ และในทุก ๆ ปีบริษัทตั้งเป้าที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นเรื่องสุขภาพ 2-3 ผลิตภัณฑ์/ปี เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย

"ไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมาถือว่าผลประกอบการแย่ที่สุดของปีนี้แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการทำโปรโมชั่น แต่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 2/60 แนวโน้มผลประกอบการจะออกมาดีขึ้นอย่างแน่นอน จากยอดขายทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามาเพิ่มขึ้น รวมถึงการยกเลิกและลด ขนาดของผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นต่ำ และหลังจากนี้เราจะเน้นการใช้กลยุทธ์การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 ผลิตภัณฑ์/ปี เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง"นายตัน กล่าว

นายตัน กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดในประเทศอินโดนีเซียที่ได้ร่วมลงทุนกับกับบริษัท PT Atri Pasifik (AP) คาดว่าจะสามารถทำรายได้ในปีนี้ราว 370 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณ 3 ล้านลัง และคาดว่าในปี 61 รายได้จะเพิ่มเป็น 1 พันล้านบาท และพร้อมที่จะลงทุนตั้งโรงงานทันที โดยเชื่อว่าหลังจากตั้งโรงงานผลิตแล้วเสร็จและเริ่มผลิตจำหน่ายได้ ผลประกอบการจะกลับมามีกำไรได้อย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ