หุ้น DTAC ปรับขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ โดยราคาหุ้นเช้านี้บวก 1.74% มาที่ 43.75 บาท หรือปรับขึ้น 0.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 377.3 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.36 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 43.50 บาท ราคาปรับขึ้นแตะสูงสุดที่ 44 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 43.25 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การที่ บมจ.ทีโอที เลือกบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เป็นคู่ค้าในการให้บริการ 4G บนคลื่นความถี่ 2300 MHz ของทีโอที ตามข้อเสนอที่ยื่น ซึ่งเป็นไปตามที่ทรีนีตี้ และตลาดคาดการณ์ไว้ ที่ DTAC จะสามารถนำคลื่นความถี่ของทีโอที มาใช้งานได้ โดยร้อยละ 60 ของความจุคิดเป็น Bandwidth ประมาณ 35 MHz ซึ่งจะช่วยลดความกังวลในเรื่องความขาดแคลน
ทำให้หลังจากหมดสัญญาสัมปทานในปีหน้า DTAC จะยังคงมี Bandwidth ที่สามารถให้บริการได้ถึง 50 MHz ซึ่งใกล้เคียงกับคู่แข่งในตลาดอย่างบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และบมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น (TRUE) ที่มีคลื่นอยู่ 55 MHz ดังนั้นแล้วน่าจะเห็นประสิทธิภาพในการให้บริการที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้แล้ว ช่วยลดแรงกดดันในการแข่งขันประมูลคลื่นที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าได้ ทำให้ราคาแข่งขันในปีหน้านั้นไม่น่าจะรุนแรงเท่ากับครั้งที่ผ่านมา
สำหรับราคาต้นทุน 4,510 ล้านบาทนั้น จะส่งผลกดดันต่อผลประกอบการในปี 61 เนื่องจากสัญญาสัมปทานนั้นจะหมดอายุลงในช่วงของเดือน ก.ย.61 ดังนั้น แล้วบริษัทยังคงมีภาระของต้นทุนสัมปทานอยู่ในช่วงของ 9 เดือนแรกปี 61 แต่อย่างไรก็ดีหลังจากหมดสัมปทานแล้วบริษัทจะลดภาระค่าตัดจำหน่ายปีละ 10,000 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้ที่จะลดลงอีกกว่า 7,000 ล้านบาท ดังนั้นแล้ว คาดผลประกอบการจะ Turnaround ในปี 62