นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาม่า มารีน (AMA) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งสินค้าในปี 60 เติบโตที่ระดับไม่ต่ำกว่า 50% จากปี 59 ที่มีรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 973.81 ล้านบาท หรือคิดเป็นรายได้รวมในปีนี้ที่ระดับใกล้เคียง 1,500 ล้านบาท โดยคาดว่าผลงานในไตรมาส 2/60 จะเติบโตต่อเนื่อง
"หากบริษัทฯสามารถทำรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ถือว่าจะเป็นการทำรายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทฯ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผลประกอบการของบริษัทฯมีการเติบโตมาโดยตลอด ทำให้บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 60 จะมีทิศทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายพิศาล กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1/60 มีกำไรสุทธิ 57.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 260.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.82 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 324.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142.41 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 78.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 181.80 ล้านบาท
นายพิศาล กล่าวว่า การเติบโตของรายได้ในปีนี้จะมาจากการเดินหน้าขยายกองเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมีเพิ่มขึ้นเป็น 9 ลำ มีน้ำหนักบรรทุกรวม 69,980 เดทเวทตัน เพื่อรองรับความต้องการขนส่งน้ำมันพืชสำหรับบริโภคของผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อขนส่งไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน และภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวมถึงภูมิภาคเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ศรีลังกา และบังคลาเทศ ซึ่งประเทศในกลุ่มดังกล่าวคาดการณ์ว่ามีความต้องการบริโภคน้ำมันพืชที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังได้ขยายกองรถบรรทุกขนส่งสินค้าเป็น 120 คัน ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 และจะเพิ่มจำนวนรถอีก 50-60 คัน เป็น 170-180 คัน ภายในสิ้นปี 2560 เพื่อรองรับการขนส่งน้ำมันในประเทศที่บริษัทฯได้รับสัญญาการขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น
“การได้รับมอบเรือลำใหม่ ซึ่งจะเป็นลำที่ 9 ในกองเรือของบริษัทฯ จะทำให้เรามีศักยภาพที่สูงขึ้นอีกมากในการรองรับการขยายตัวของตลาดน้ำมันพืชสำหรับบริโภค รวมถึงการเพิ่มกองรถบรรทุกขนส่งน้ำมันก็จะช่วยเสริมความสามารถในการทำรายได้ให้เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ ซึ่งเรายังคงเดินหน้าเพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงให้กับบริษัทฯ" นายพิศาล กล่าว