นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผ้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าคลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) กำลังการผลิต 102 เมกะวัตต์ (MW) จะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าดังกล่าว
โรงไฟฟ้าคลองหลวง เป็น 1 ใน 6 โครงการทั้งในและต่างประเทศที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งรวมถึงโครงการ SPP ในประเทศอีก 2 โครงการ และโครงการในต่างประเทศ 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าไซยะบุรี ในลาว ,โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา และโรงไฟฟ้ามาซินลอค หน่วยที่ 3 ในฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 62
สำหรับความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในต่างประเทศ 4 โครงการ ได้แก่ สปป.ลาว 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำปากแบง อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเทิน 1 อัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว
ขณะที่โรงไฟฟ้าพลงังานความร้อนใต้พิภพ สตาร์ เอนเนอร์ยี่ ส่วนขยาย หน่วยที่ 3 และ 4 อยู่ระหว่างเจรจาค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิ อยู่ระหว่างการเจรจาค่าไฟฟ้าและสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม และเจรจาสัญญาหลักต่าง ๆ เช่น สัญญาสัมปทาน สัญญาการรับประกันจากรัฐบาล ฯลฯ กับรัฐบาลเวียดนาม
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.96 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทร่วมทุนระหว่างเอ็กโก กรุ๊ป กลุ่มบริษัท สตาร์ เอนเนอร์ยี่ และกลุ่มบริษัท เอซี เอนเนอร์ยี่ ได้โอนหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพซาลัก และดาราจัท ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 402 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำรวมทั้งสิ้น 235 เมกะวัตต์เทียบเท่า ในประเทศอินโดนีเซีย จากบริษัทในเครือเชฟรอนแล้วเสร็จ ทำให้สัดส่วนการลงทุนของเอ็กโก กรุ๊ป คิดเป็น 20.07% ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วทำให้รับรู้รายได้ทันที