บมจ.ถิรไทย (TRT) มั่นใจว่าผลประกอลบการปีนี้จะมีกำไรแน่นอน แม้ว่าไตรมาส 1/60 จะมีผลขาดทุนสุทธิ เนื่องจากบริษัทเผชิญกับการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่ในการรับงานใหม่บริษัทจะเลือกรับงานที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูงเพื่อผลักดันภาพรวมกำไรสุทธิของปีนี้ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือแล้ว 2,250 ล้านบาท และอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่ 1.03 หมื่นล้านบาท คาดหวังจะชนะประมูลราว 20-25% ซึ่งจะทยอยรู้ผลอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังมีการเจรจากับพันธมิตรเพื่อทำธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้ประจำคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
อนึ่ง TRT แจ้งผลประกอบการปี 59 มีกำไร 61.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่ขาดทุน 45.97 ล้านบาท แต่ในไตรมาส 1/60 มีผลขาดทุนสุทธิ 31.56 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.43 ล้านบาท
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ ของ TRT เปิดเผยว่า บริษัทหันมาเน้นมารับงานภาคเอกชนที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น และไม่เน้นการแข่งขันด้านราคา ทำให้คาดว่าทั้งปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ในระดับ 20-25% จากช่วงไตรมาส 1/60 ที่ 19.36% ซึ่งจะหนุนให้ปีนี้สามารถทำกำไรสุทธิได้แน่นอน ขณะที่ยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 25-30% จาก 2,577 ล้านบาทในปีก่อน
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/60 จะยังคงใกล้เคียงกับในช่วงไตรมาส 1/60 เนื่องจากงานต่าง ๆ ที่จะออกมาคาดว่าจะไปรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นหลัก โดยในสิ้นไตรมาส 1/60 บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) 2,250 ล้านบาท รับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 1,469 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 61-62
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานต่อเนื่องมูลค่า 10,280 ล้านบาท แบ่งเป็นงานการไฟฟ้านครหลวง 1,500 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,700 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิแห่งประเทศไทย 1,500 ล้านบาท และตลาดเอกชนในประเทศ 1,900 ล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 1,050 ล้านบาท รวมถึงยังมีงานซ่อมบำรุงหม้อแปลง 50 ล้านบาท และกลุ่มบริษัทย่อย รถเครน กว่า 1,460 ล้านบาท และกลุ่ม Steel Structure & Fabricate 1,120 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจะได้รับคำสั่งซื้อประมาณ 20-25% ของมูลค่ารวม
นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนในธุรกิจที่มีรายได้ประจำ 1 ราย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงมีความสนใจเข้าไปร่วมลงทุนในโครงการเหมืองแม่เมาะ มูลค่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้สรุปจะเข้าไปในงานส่วนใด โดยบริษัทจะเน้นการขยายธุรกิจไปสู่กิจการที่มีรายได้ประจำมาขึ้น โดยบริษัทวางเป้าหมายที่มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลง (Non-Tranformer) เพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบัน 30%