โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.อมตะคอร์ปอเรชั่น (AMATA) หลังมองกำไรจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในช่วง 2 ปีนี้ จากจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของภาครัฐที่มุ่งการลงทุนสู่พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะผลักดันให้ยอดขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตามการลงทุนที่จะเข้ามาจากการออกแพ็กเกจส่งเสริมของภาครัฐ ขณะที่ AMATA ซึ่งเน้นการพัฒนานิคมฯอย่างเดียว และยังมีที่ดินเหลือรอการพัฒนาในภาคตะวันออกมากกว่า 1 หมื่นไร่ และยังมีโอกาสปรับขึ้นราคาขายที่ดินก่อนที่ความต้องการที่แท้จริงจะเกิดขึ้นด้วย ทำให้มองว่า AMATA จะได้รับประโยชน์จาก EEC มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่ดินจากโครงการ EEC อาจยังไม่เข้ามาในเร็ว ๆ นี้ แต่ยอดขายที่ดินของ AMATA ในปีนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว แม้ในไตรมาสแรกจะทำยอดขายได้ไม่ดีนัก แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาลที่ยอดขายที่ดินจะปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี รวมถึงยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ส่วนใหญ่คาดว่าจะโอนได้ในปีนี้ก็จะช่วยหนุนให้รายได้ในปีนี้ยังคงเติบโต
สำหรับระยะสั้นในช่วงไตรมาส 2/60 คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน ตามการโอนที่ดินที่มากขึ้นด้วย
เวลา 10.46 น. ราคาหุ้น AMATA อยู่ที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท (+3.57%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.19%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ธนชาต ซื้อ 23.00 โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 18.90 ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ซื้อ 18.30
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ยอดขายที่ดินของ AMATA จะพื้นตัวได้ดีกว่ากลุ่มในช่วงปี 60-62 ขณะที่จะมีรายได้เข้ามาเพิ่มจากธุรกิจสาธารณูปโภค ที่จะเติบโตตามการลงทุน ตลอดจนการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและการลงทุนในต่างประเทศของ AMATA ก็จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานด้วย
ทั้งนี้ กำไรจะกลับสู่รอบการเติบโตโดดเด่นอีกครั้งช่วง 2 ปีนี้ จากทั้งรายได้โรงไฟฟ้าและยอดขายที่ดิน โดยคาดว่ากำไรในไตรมาส 2/60 จะเพิ่มทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน ตามการโอนที่ดินมากขึ้น และกำไรในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก โดยปัจจุบันมี Backlog การขายที่ดิน คิดเป็น 74% ของประมาณการทั้งปี
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การพัฒนาพื้นที่ EEC ของภาครัฐบาลจะทำให้ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม ได้รับประโยชน์ทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น ซึ่ง AMATA ที่เน้นการพัฒนาธุรกิจนิคมฯเพียงอย่างเดียว จะได้รับประโยชน์จาก EEC มากสุด ทำให้ปรับราคาเป้าหมายของหุ้น AMATA เป็น 23 บาท จากเดิม 20 บาท และเลือกเป็น Top Pick ของกลุ่ม
การที่รัฐบาลผลักดันการลงทุนใหม่ภายใต้โครงการ EEC จะทำให้นิคมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่สดใสขึ้น แม้คาดว่าปริมาณขายที่ดินของ AMATA จะยังอยู่ในระดับปานกลางก่อนรอบการลงทุนใหม่จะเข้ามาในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่ราคาที่ดินน่าจะปรับขึ้นก่อนที่ความต้องการที่แท้จริงจะเกิดขึ้น
"เราเชื่อมั่นในโครงการ EEC จึงปรับเพิ่มสมมติฐานราคาที่ดินของเราจาก 3% ต่อปี ในปี 61-62 เป็น 6-10% ซึ่งส่งผลให้ประมาณการกำไรของเราถูกปรับขึ้น 3-6% ในปี 61-62 ซึ่งเราไม่คิดว่าประมาณการของเรานั้นสูงไป เนื่องจาก AMATA มีทำเลที่ดีทำให้มีความสามารถในการขึ้นราคาขายที่ดีในอดีต แม้ความต้องการจากโครงการ EEC จะยังไม่เข้ามา แต่ AMATA ได้ปรับขึ้นราคาที่ดินที่อมตะ นคร ในชลบุรีขึ้นแล้ว 7% ในปี 58 และ 13% ในปี 59 และที่อมตะ ซิตี้ ในระยอง 19% ในปี 59 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ปรับขึ้นมาแล้ว 18-20% ต่อปีในปี 55-56 เนื่องจากความต้องการย้ายโรงงานมายังภาคตะวันออกของไทยจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดทางภาคกลางในปี 54"ธนชาต ระบุ
ธนชาต ยังระบุว่า แม้กำไรกำไรปกติของ AMATA ในไตรมาส 1/60 คิดเป็น 21% ของประมาณการทั้งปี แต่ก็ยังคงแนะนำ "ซื้อ" เพราะมองว่าแนวโน้มกำไรจะดีขึ้น จากการโอนที่ดินนิคมฯจาก backlog เพิ่มขึ้น โดนเฉพาะในครี่งหลังปีนี้ ขณะที่ AMATA มี backlog ณ สิ้นไตรมาส 1/60 ที่ระดับ 2.1 พันล้านบาท คิดเป็น 82% ของประมาณการรายได้นิคมฯปีนี้ อีกทั้งคาดว่าแนวโน้มยอดขายที่ดินนิคมจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่เหลือของปีจากทั้งไทยและเวียดนาม
บทวิเคราะห์ของบล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า โครงการ EEC ส่งผลดีทางตรงต่อ AMATA อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากงบการเงินย้อนหลังของผู้ประกอบการในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ในช่วงปี 59 และไตรมาส 1/60 แล้ว AMATA นับว่ามีการเติบโตในลักษณะที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ดีที่สุดในกลุ่ม ประกอบกับ AMATA ยังมีที่ดินรอการพัฒนาในเขตจังหวัดภาคตะวันออกอีกราว 1.4 หมื่นไร่ ซึ่ง AMATA มั่นใจว่าเพียงพอพัฒนาไปได้อีก 10 ปี โดยที่ดินที่มีอยู่มีแนวโน้มได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นทุกปีอีกด้วย