นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) (CNT) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ในไตรมาส 2/60 จะดีกว่าไตรมาส 1/60 ตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น แม้ในช่วงไตรมาสสองนี้จะมีวันหยุดยาวค่อนข้างมาก และเป็นช่วงของฤดูฝน แต่จะถูกชดเชยด้วยโครงการใหม่ ๆ ที่จะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ราว 15% หรือมาอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 7,003 ล้านบาท โดยคาดหวังจะมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 60 แตะระดับ 10,000 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 8,817 ล้านบาท หลังเตรียมเข้าประมูลงานภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมอีกในช่วงครึ่งปีหลังนี้ มูลค่างานรวมไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท ได้แก่ งานมอเตอร์เวย์ ,งานรถไฟทางคู่ ,งานสนามบิน และงานรถไฟฟ้า เป็นต้น โดยในส่วนงานภาครัฐขนาดใหญ่นั้น บริษัทจะเข้าร่วมกับพันธมิตรที่มีคุณสมบัติในการประมูลโครงการในกลุ่มงานรถไฟทางคู่ ,รถไฟฟ้า และงานสนามบิน โดยปัจจุบันก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 2 ราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2/60
"ภาพรวมของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากงานเมกะโปรเจคภาครัฐ ที่ออกมาช่วยผลักดันงาน ขณะที่ภาคเอกชน สถานการณ์ตอนนี้ยังคงซึม ๆ ยังไม่เห็นการลงทุน แต่เชื่อว่าหากภาครัฐลงทุน เอกชนก็จะลงทุนตาม โดยเราคาดหวังจะมีงานในมือ สิ้นปีนี้แตะ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นมูลค่าที่สูงที่สุด ก็น่าจะส่งผลต่อตัวรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเราอาจะมีการทบทวนเป้าหมายรายได้ในช่วงไตรมาส 3/60 เพื่อให้สอดรับกับงานในมือ จากปัจจุบันยังคงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตมาที่ระดับ 8,000 ล้านบาท"นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ด้านอัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ น่าจะดีกว่าปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 2.01% และอัตรากำไรขั้นต้น 6.33% โดยในอนาคตคาดหวังให้อัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือมาอยู่ที่ระดับ 6.4% และ 9% ตามลำดับ จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นทำให้มีงานประมูลออกมามากขึ้น ประกอบกับบริษัทก็เข้าไปรับงานมากขึ้น และลดรับงานที่มีมาร์จิ้นต่ำ
สำหรับการเข้าไปรับงานในต่างประเทศ บริษัทได้เข้าร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทย ที่ได้เข้าไปรับงานในประเทศเมียนมา โดยคาดในไตรมาส 3/60 ก็จะเข้าไปรับงานในประเทศดังกล่าวเพิ่มเติมอีก ขณะที่ก็เตรียมขยายเข้าไปรับงานในประเทศลาวเพิ่มเติม มูลค่างานราว 100 ล้านบาท คาดว่าจะชัดเจนได้ในไตรมาส 3/60 นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาในการจัดตั้งบริษัทในประเทศกัมพูชา หลังจากเข้าไปรับงานร่วมกันกับพันธมิตร คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 2/60 ถึงไตรมาส 3/60 อย่างไรก็ตามสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ ปัจจุบันยังมีไม่มากนัก หรือประมาณ 10 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้ก็นาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามปริมาณงานที่เพิ่มเข้ามา