โบรกฯเชียร์"ซื้อ" SF มองผลประกอบการมีเสถียรภาพ จากปรับขึ้นค่าเช่าตามสัญญา-เปิดโครงการใหม่หนุนรายได้เพิ่มในอนาคต

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 2, 2017 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ" หุ้นบมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ (SF) จากผลการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพและมีแนวโน้มของรายได้ค่าเช่าเติบโตขึ้นจากการปรับเพิ่มขึ้นค่าเช่าตามสัญญา ประกอบกับยังมีโครงการใหม่ที่จะเปิดดำเนินการในอนาคตเข้ามาเสริมจำนวนพื้นที่เช่าให้เพิ่มขึ้น และเสริมการเติบโตของรายได้ในอนาคต

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของ SF ในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งจะมาจากการปรับเพิ่มค่าเช่าตามสัญญาปกติ 5% และยังมีกำไรจากโครงการกิจการร่วมค้าของโครงการเมกาบางนา เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากการยกเลิกเช่าพื้นที่ของผู้เช่าหลักใน 2 โครงการ ที่บางบอนและพัทยาก็ตาม ขณะที่ทั้งปีนี้ยังลุ้นขายที่ดินย่านบางใหญ่อาจหนุนให้มีบันทึกกำไรจากการขายที่ดินเพิ่มเติมด้วย

เมื่อเวลา 16.25 น.ราคาหุ้น SF อยู่ที่ 6 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 0.35%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                  ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เอเซีย พลัส                    ซื้อ                          9.10
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ               ซื้อ                          8.00
          บัวหลวง                       ซื้อ                          8.00
          ทิสโก้                         ซื้อ                          7.30

นางสาวสุธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า SF เป็นบริษัทที่ผลการดำเนินงานมีเสถียรภาพ โดยมีการเติบโตของรายได้จากโครงการเดิมที่สามารถปรับขึ้นค่าเช่าได้ตามสัญญา ประกอบกับมีการปรับปรุงและขยายพื้นที่เช่า ซึ่งทำให้รายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งการเปิดโครงการใหม่ในอนาคต เช่น โครงการเมกาซิตี้ ซึ่งเป็นโครงการ Mixed use ขนาดใหญ่ และ โครงการเมการังสิต ซึ่งจะเป็นโครงการที่เข้ามาสนับสนุนรายได้ของบริษัทในอนาคต

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 คาดว่ากำไรปกติจะทรงตัวจากไตรมาสแรกที่ 118 ล้านบาท เนื่องจากอัตราเข้าเช่าเฉลี่ยของโครงการลดลง หลังยังไม่มีผู้เช่ารายใหม่เข้าเช่าพื้นที่แทนผู้เช่าหลักที่ออกไปในโครงการ Premium outlet พัทยา และโครงการ Max Valu บางบอน ประกอบกับยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2/60 โดยโครงการใหม่ที่คาดว่าจะเปิดในไตรมาส 4/60 คือ โครงการเมกาบางนา เฟส 2 ซึ่งมีการขยายพื้นที่เช่าอีก 10,000 ตารางเมตร ก็จะเข้ามาสนับสนุนรายได้ไนช่วงไตรมาส 4/60 และในปีต่อ ๆ ไป

นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 ของ SF จะยังเห็นการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะฐานรายได้ค่าเช่าส่วนใหญ่เป็นรายได้ที่แน่นอน และกลุ่มตลาดที่ SF ให้ความสำคัญได้รับผลกระทบน้อยจากการชะลอตัวของการบริโภค

ด้านผลการดำเนินงานทั้งปีนี้ยังมองว่ากำไรหลักมีโอกาสเติบโตได้ 10% จากปีก่อน หรือมาอยู่ที่ 965 ล้านบาท จากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นราว 5% ซึ่งเป็นไปตามการปรับค่าเช่าตามสัญญาปกติ และยังมีส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าในโครงการเมกา บางนา เข้ามากว่า 400 ล้านบาท ซึ่ง SF ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีผลการดำเนินงานค่อนข้างมั่นคง และมี Valuation ที่ถูก โดยมี P/E อยู่ที่ 10.8 เท่า ทำให้ยังเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจอยู่

นักวิเคราะห์บล.ทิสโก้ คาดว่ากำไรของ SF ในไตรมาส 2/60 อาจจะเห็นการเติบโตได้เล็กน้อยจากไตรมาส 1/60 และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้นราว 5% ตามสัญญาเช่าปกติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปจากการยกเลิกสัญญาเช่าของผู้เช่าหลักในโครงการที่บางบอนและพัทยา ที่ยังไม่มีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาเช่าพื้นที่ดังกล่าว

อย่างไรก็ตามทั้งปี 60 ยังคงประมาณการผลการดำเนินของ SF จะมีรายได้อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท และมีกำไรอยู่ที่ 938 ล้านบาท แต่มีโอกาสที่ SF จะมีรายได้และกำไรมากกว่าที่ประมาณการ หากสามารถเจรจาขายที่ดินในย่านบางใหญ่ได้สำเร็จ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนผลการดำเนินงานในปีนี้ได้จากรายได้และกำไรพิเศษที่เข้ามาจากการขายที่ดิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ