WAVE-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 1.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 33.92 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.98 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.98 บาท และราคาลงต่ำสุด 1.00 บาท
ขณะที่หุ้น WAVE ปิดที่ 3.62 บาท ลดลง 0.02 บาท (-0.55%) มูลค่าซื้อขาย 1.88 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.66 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 3.72 บาท และราคาลงต่ำสุด 3.62 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WAVE) ใช้ชื่อย่อว่า WAVE-W1 จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้น WAVE-W1 คาดว่าจะมี All-in Premium 68.4% เนื่องจากราคาใช้สิทธิที่สูงกว่าราคาหุ้นแม่มาก ทำให้มีสถานะที่ Out-of The Money ถึง 39.33% โดยมองว่าเทียบกับหุ้นแม่แล้ว WAVE-W1 เป็นใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจาก Gearing ที่สูงถึง 28 เท่า และการซื้อขายของหุ้นแม่ที่ต่ำมาก โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพียง 2.67 ล้านบาทในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้มองว่า WAVE-W1 จะน่าเก็งกำไรก็ต่อเมื่อมูลค่าการซื้อขายของหุ้นแม่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 3.64 บาท จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ WAVE-W1 ที่ 0.13 บาท คิดเป็น All-in Premium 68.4% พร้อมให้กรอบมูลค่าของ WAVE-W1 ไว้ที่ 0.11-0.15 บาท เมื่อราคาหุ้น WAVE เคลื่อนไหวในกรอบ 3.54-3.74 บาท โดยมี Volatility 24% per year
WAVE เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรายการโทรทัศน์, ให้บริการจัดแสดงคอนเสิร์ต และการจัดกิจกรรมต่างๆ, เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ และจัดจำหน่ายละครไทยของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, ให้บริการฝึกสอน และอบรมทางด้านวิชาภาษาอังกฤษโรงเรียนเอกชน ภายใต้ชื่อสถาบันสอนภาษา Wall Street English (WSE), ให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อ Jeffer Steak & Seafood รวมทั้งให้บริการสร้างสรรค์และบริหารงานด้านการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร
WAVE-W1 จำนวนที่ออก 42.12 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 10 หุ้นเดิม : 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 6.00 บาท, อายุ 3 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของทุกเดือน มิ.ย. และ ธ.ค. (สามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 29 ธ.ค. 2560 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 8 พ.ค. 2563)