นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดกำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่ 56.05 ล้านบาท แม้ว่าอัตรากำไรสุทธิอาจจะทรงตัวหรือว่าต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย จากปีก่อนที่ 6.55% ซึ่งเป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และการแข่งขันรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามปริมาณการขายที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้กำไรสุทธิสูงขึ้นตามไปด้วย โดยปีนี้บริษัทฯยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 10-15% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวมที่ 855.47 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯยังเน้นการทำการตลาดให้เข้าสู่กลุ่มผู้ใช้โดยตรง และผู้ประกอบการร้านช่าง ด้วยงบลงทุนกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะเน้นที่ประเทศอินเดีย โดยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งในปีนี้บริษัทฯคาดว่าสัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศ 50% และในประเทศ 50%
"เรามองว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/60 จะใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/60 เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯต้องมีการปรับราคาขายเพื่อที่จะสะท้อนต้นทุรนที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อออกไป แต่อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องเรามองว่าราคาวัตถุดิบจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และทำให้คำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติด้วย"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯยังได้วางงบลงทุนไว้ราว 50-80 ล้านบาท ในทุกๆปีเพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลงทุนเครื่องจักรอัตโนมัติ ที่ช่วยให้การบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทฯดีขึ้นในทุกๆปี เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนคนมากแม้ว่าจะต้องเพิ่มกำลังการผลิต
นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการ 1 รายในประเทศ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่อง หรือ แตกไลน์ธุรกิจใหม่ โดยหากใช้งบลงทุน 200-300 ล้านบาท ยังคงเพียงพอต่อการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯมีกระแสเงินสดในมือ และ มีความสามารถในการกู้จากสถาบันการเงินได้อีก โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) กว่า 1 เท่า