บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ค่าเงินบาทแข็งขึ้น (หลุด 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐลงมา) เนื่องจากมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของไทยมากขึ้น สัดส่วนการถือครองตราสารหนี้ของต่างชาติเพิ่มเป็น 13.3% ในสัปดาห์ก่อน เทียบกับ 10.5% ใน 2 สัปดาห์ก่อนหน้า และการถือครองตราสารหนี้ระยะยาว 5-10 ปีเพิ่มเป็น 29.74% จาก 26.88% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ดีบีเอสฯ ระบุว่า TVO เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทแข็งเพราะนำเข้าวัตถุดิบมาก และ/หรือ มีหนี้สินต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ SMIT, THAI และ TVO เป็นต้น สำหรับกลุ่มพลังงานจะได้รับผลกระทบไม่มาก เพราะแม้จะมีรายได้อิงเงินดอลลาร์สหรัฐแต่ก็มีหนี้ต่างประเทศด้วยเช่นกัน
ขณะที่กลุ่มส่งออกสุทธิ/บริษัทที่มีรายได้รูปดอลลาร์ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งในระยะสั้น เพราะทำให้รายได้และอัตรากำไรที่แปลงกลับมาเป็นเงินบาทลดลง โดยค่าเงินบาทเฉลี่ยเดือนเม.ย.-พ.ค.60 (QTD) แข็งขึ้นจากเฉลี่ยใน 1Q60 ประมาณ 2% และแข็งขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนราว 2% เช่นกัน
สำหรับหุ้นที่มีรายได้จากการส่งออกสุทธิ/รายได้รูปดอลลาร์สูง ได้แก่ ASIAN, CCET, CFRESH, DELTA, IVL, KCE, KSL, HANA, SVI, STA, THCOM, TU, VNG ส่วนที่มีรายได้ส่งออกปานกลาง เช่น GFPT, TKN เป็นต้น