นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเปิดขายเอกสารประกวดราคางานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (CC1/2) ราคากลาง 16,176 ล้านบาท ปรากฎมีผู้เข้าซื้อซองประกวดจำนวน 8 ราย ได้แก่ 1. บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) 2. บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) 3.บมจ.ช.การช่าง (CK) 4.บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) 5. บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) 6.บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น(ไทย) (CNT) 7.ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น และ 8.รวมนครก่อสร้าง
ทั้งนี้ AOT จะเปิดให้ยื่นเอกสารประกวดราคาในวันที่ 2 ส.ค.นี้ จากนั้นจะประกาศผลผู้ชนะการประมูลได้ในวันที่ 11 ส.ค.60 ก่อนจะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทอนุมัติผลการประมูล ซึ่งคาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้ในเดือน ก.ย.60
ส่วนความคืบหน้าการประมูลราคางานจัดซื้อจัดจ้างระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) ของโครงการพัฒนาท่าอากาศสุวรรณภูมิ เฟส 2 ราคากลางที่ 2,890 ล้านบาทนั้น นายนิตินัย กล่าววา บริษัทจะนำเสนอผลการประมูลงาน APM ให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาในวันที่ 21 มิ.ย.60
AOT ได้เจรจาผู้เข้าประมูลทั้ง 2 ราย คือ ITD ซึ่งได้คะแนนสูงสุดทั้งด้านเทคนิคและราคา แต่เสนอราคาสูงกว่าราคากลาง โดยการเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้จึงได้เรียกรายถัดไปเข้ามาเจรจา คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า IRTI ประกอบด้วย บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) บริษัท เรืองณรงค์ จำกัด บริษัท ที.อี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และท่าอากาศยานอินชอน มีคะแนนด้านเทคนิคเป็นรอง และราคาที่เสนอมาก็เกินงบกลาง แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้เช่นกัน
"ราคาประมูลได้ไม่ต่ำกว่าราคากลาง เราจะนำเสนอผลการเจรจาของทั้งสองราย และข้อดีข้อเสียเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา เพราะมีประเด็นต้อง discuss กัน"นายนิตินัย กล่าว
นายนิตินัย กล่าวยอมรับว่า ราคากลางของงาน APM คำนวณบนอัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลาหนึ่ง แต่ขณะนี้อัตราแลกเปลี่ยนได้เปลี่ยนแปลงไป หลังจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อการนำเข้าเครื่องมือระบบ APM ที่จะมีราคาสูงขึ้น
ส่วนงานอื่นในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ที่จะเปิดประมูลในปีนี้เพิ่มเติม ได้แก่ งานอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก (CC2/1) ที่ได้แยกออกมาจากงานก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันออก (CC2/2) ซึ่งต้องรอให้งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) แล้วเสร็จก่อน และจะต้องดูระยะเวลาประมูลให้สอดคล้องกับงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 (Terminal 2) ด้วย
นอกจากนี้ จะมีงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) (CC5) จะเปิดประมูลภายในปีนี้เช่นกัน ระหว่างนี้รอการคำนวณราคากลาง