นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น โดยมองว่าน่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดกลาง-เล็ก เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่ยังไม่แน่ใจในทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้าย (Fund Flow) และยังต้องรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะการใช้นโยบายทางด้านการเงินที่เข้มงวดขึ้นหรือไม่
แม้ว่าวานนี้หุ้นกลุ่ม PTT ปรับตัวขึ้นมา แต่เป็นการเล่นเก็งกำไรปัจจัยเฉพาะตัวจากกรณีที่รัฐบาลอาจใช้ ม.44 เข้ามาแก้ไขปัญหาแหล่งผลิตปิโตรเลียม S1 แต่ส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวชึ้นมาของหุ้นขนาดกลาง-เล็ก นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, การบริโภคภายในประเทศ และกลุ่มค้าปลีก ก็ยังมีความน่าสนใจเข้าลงทุน ส่วนที่เด่นอีกกลุ่มเมื่อวานนี้ คือ กลุ่มเดินเรือที่ขึ้นมาขานรับช่วง High Season เดือน มิ.ย.-ก.ค. และกลุ่มยางพารามีปัจจัยหนุนจากรัฐบาลขยายมาตราการช่วยเหลือชาวสวนยาง
สำหรับวันนี้มีปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงานทดแทนให้เก็งกำไร คือ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะประกาศจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรในเฟสที่ 2 ในวันนี้หลังจากที่เปิดให้ยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้า โดยกำหนดการจับสลากและประกาศผู้ชนะการประมูลในวันที่ 28 มิ.ย.
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ค่อนข้างจะอยู่ในแดนบวก ซึ่งบรรยากาศโดยรวมยังหนุนตลาดฯได้ พร้อมให้แนวรับ -1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 จุด