หุ้น MONO ราคาวิ่งขึ้น 3.59% มาอยู่ที่ 3.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 48.80 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.19 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.36 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.46 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.36 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรสุทธิ 181 ล้านบาทในปี 2560 จากขาดทุนสุทธิ 250 ล้านบาทในปี 2559 และคาดว่ากำไรของบริษัทจะโตถึง 165% YoY ในปี 2561 จากการเติบโตอย่างน่าประทับใจของธุรกิจ TV ดิจิตอล (ธุรกิจหลัก) โดยประเมินราคาเป้าหมายในอีก 12 เดือนข้างหน้าที่ 3.98 บาท ยังเหลือ upside จากราคาตลาดอยู่อีก 19%
หลังจากที่บริษัทได้ใบอนุญาต TV ดิจิตอลจาก กสทช. และ เริ่มออกอากาศช่อง MONO 29 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ธุรกิจ TV ดิจิตอลก็กลายมาเป็นธุรกิจหลักของ MONO ภายในเวลาแค่สองปี โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จได้แก่ i) ความแตกต่างของช่อง MONO 29 ในฐานะที่เป็นช่องฟรีทีวีที่เน้นฉายภาพยนตร์และซีรี่ย์ ในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่เน้นไปที่ละคร และรายการวาไรตี้ ii) มีรายการดีๆ สำหรับออกอากาศเนื่องจาก MONO ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับค่ายหนังชั้นนำจากฮอลลีวู้ดอย่างเช่น Warner Bros., Walt Disney, Universal, Paramount ฯลฯ
เนื่องจากธุรกิจโฆษณาในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านจากการใช้สื่อแบบดั้งเดิม (TV อนาล็อก) มาเป็นสื่อใหม่อย่างเช่น TV ดิจิตอล ดังนั้นจึงคิดว่าธุรกิจ TV ดิจิตอลน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราเชื่อว่ายากที่คู่แข่งของ MONO จะหาหนังดีๆ มาแข่งได้ในระยะสั้น เนื่องจาก MONO ทำสัญญาระยะยาวเอาไว้กับค่ายหนังระดับโลกหลายเจ้า
แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทถือว่าประสบความสำเร็จ โดยเห็นได้จากทั้งฐานผู้ชมที่แข็งแกร่ง และเรทติ้งทีวีที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะช่วยหนุนความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว โดยเรทติ้งของช่อง Mono 29 ขยับเพิ่มขึ้นจาก 0.08 ในเดือนกรกฎาคม 2557 เป็น 0.93 ในเดือนพฤษภาคม 2560 จัดอยู่ในอันดับที่สี่ของอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ คาดว่า MONO จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 181 ล้านบาทในปี 2560 จากเดิมที่ขาดทุนสุทธิ 250 ล้านบาทในปี 2559 โดยปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญจะมาจาก 1) รายได้ที่โตถึง 34% YoY ตามการเติบโตของธุรกิจ TV ดิจิตอล จากการเพิ่มขึ้นของทั้งอัตราค่าโฆษณา และการใช้เวลาโฆษณา 2) อัตรากำไรขั้นต้นขยับเพิ่มขึ้นจาก 21% ในปี 2559 เป็น 31% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และ 3) สัดส่วน SG&A/ยอดขายลดลงจาก 25.3% ในปี 2559 เหลือแค่ 21% โดยคาดว่ากำไรของบริษัทจะโตถึง 165% YoY ในปี 2561 เป็น 479 ล้านบาทเนื่องจากคาดว่าจะมีการปรับขึ้นค่าโฆษณาอีก 18% YoY เป็น 33,000 บาท