น.ส.สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 23,949.58 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิก็น่าจะเติบโตไปตามรายได้ จากปีก่อนที่มีกำไร 406.93 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของยอดขายโทรศัพท์มือถือที่ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากตลาดค่อนข้างมาก และบริษัทเน้นการจำหน่ายสินค้าที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง
ประกอบกับ ล่าสุด บริษัทจับมือกับ SZ DJI Technology Co.,LTD ผู้นำเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางอากาศและเป็นผู้พัฒนานวัตกรรมการผลิตอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) รายใหญ่ระดับโลก โดยแต่งตั้งให้บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ DJI อย่างเป็นทางการ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายสินค้า DJI ในตลาดประเทศไทยปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการขยายตลาดสินค้า"โดรน"เข้าไปในช่องทางการจำหน่ายในกลุ่ม Commercial (ผลิตภัณฑ์โดรนเพื่อการพาณิชย์) และช่องทางการจำหน่ายในกลุ่ม Industrial Grade (ผลิตภัณฑ์โดรนเพื่อการอุตสาหกรรม) คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งทาง SYNEX คาดหวังจะมีมาร์เก็ตแชร์จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับ DJI มากขึ้น จากปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์แล้วมากกว่า 50%
"เรามั่นใจว่ารายได้ปีนี้น่าจะทำได้เกินเป้าหมาย จากเดิมที่คาดโตได้ราว 20% จากยอดขายมือถือที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสินค้าใหม่ที่มีเข้ามาเพิ่มเติม อย่าง โดรน ก็น่าจะเข้ามาเสริมเป้าหมายปีนี้ได้ ขณะที่กำไรสุทธิก็น่าจะเติบโตไปตามรายได้ จากสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง"น.ส.สุธิดา กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 เขื่อว่ารายได้น่าจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของทุกกลุ่มสินค้า โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มโทรศัพท์มือถือราว 30% ,ผลิตภัณฑ์กลุ่มคอนซูเมอร์ 40% และที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มคอมเมอร์เชียล
บริษัทยังมีแผนเปิดศูนย์ซ่อมบำรุงสินค้าอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ Trusted by Synnex คาดจะเปิดให้บริการได้ในเดือนก.ค.นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ซึ่งศูนย์ซ่อมดังกล่าวจะอยู่ภายในศูนย์บริการซินเน็คที่มีสาขารวมทั้งสิ้น 71 สาขา แบ่งเป็น ศูนย์บริการที่บริษัทเป็นผู้บริหารเอง จำนวน 11 สาขา และสาขาที่ร่วมกับพันธมิตรทั่วประเทศอีก 60 สาขา คาดหวังจะมีรายได้จากการบริการ (Service) มากขึ้น จากปัจจุบันมีรายได้อยูที่หลักสิบล้านบาทในแต่ละปี
น.ส.สุธิดา กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศจำนวน 1 ราย เพื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจที่จะเข้ามาต่อยอดการเติบโตของ SYNEX คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายเดือน มิ.ย.นี้ หรืออย่างช้าต้นเดือน ก.ค.60 ซึ่งน่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 300 ล้านบาท
ขณะที่แผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศกัมพูชา คาดหวังว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ในช่วงปลายปีนี้ จากก่อนหน้านี้ก็ได้ส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศกัมพูชาบ้างแล้ว และได้มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในเมียนมาและลาวแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศไม่ถึง 10%