หุ้น MALEE ราคาร่วงลง 5.56% มาอยู่ที่ 46.75 บาท ลดลง 2.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 162.33 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.02 น. โดยเปิดตลาดที่ 49 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 49 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 46.75 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าของการร่างกฏหมายการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตกลุ่มเครื่องดื่ม ที่จะมีผลบังคับใช้ใน 16 ก.ย.60 นั้นการจัดการเก็บภาษีสูงสุดจะอยู่ที่ 20% โดยมีการคำนวณภาษีโดยใช้ราคาขายปลีก (เปลี่ยนจากเดิมที่คำนวณภาษีโดยใช้ราคาหน้าโรงงาน) และอัตราภาษีจะเก็บแตกต่างกันขึ้นอยู่ระดับความหวานที่กรมสรรพสามิต กำหนดไว้ 3 ระดับ 1.) ปริมาณน้ำตาล 10-14% 2.) ปริมาณน้ำตาล 14-18% 3.) ปริมาณน้ำตาลมากกว่า 18%
ทั้งนี้ มีความเห็นว่า ปัจจุบันเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงของบมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) มีระดับความหวาน 18% และบริษัทได้เสียภาษีในอัตรา 20% แล้ว แต่ผลกระทบที่มีบริษัทอยู่ที่ฐานราคาในการคำนวณภาษีซึ่งเปลี่ยนจากราคาหน้าโรงงานเป็นราคาขายปลีก ในขณะที่สินค้าหลักของบมจ.มาลีกรุ๊ป (MALEE) ประมาณ 90% ไม่มีการเสียภาษี เพราะสินค้าเป็นเครื่องดื่มจากน้ำผลไม้ อย่างไรก็ตามอัตราภาษีใหม่จะกระทบกับลูกค้าที่ MALEE รับจ้างผลิต ในกลุ่มกาแฟกระป๋อง ซึ่งสินค้านี้ได้รับการยกเว้นภาษีความหวานในช่วงที่ผ่านมา และหากนำมาใช้ก็จะมีผลต่อกำลังซื้อที่มีต่อสินค้า
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผลกำไรของ MALEE ในไตรมาส 2/60 อาจอ่อนแอกว่าคาด เนื่องจากการส่งออกชะลอตัว หลังต้องตรวจสอบเรื่องความเป็นน้ำมะพร้าว 100% ให้แล้วเสร็จก่อน รวมทั้งยอดขายในประเทศก็ซบเซา ก็มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์กำไรและราคาเป้าหมายลง ระยะสั้นให้"ลดน้ำหนักลงทุน"ไปก่อน