ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,576.58 จุด เพิ่มขึ้น 3.05 จุด (+0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 41,218.57 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,579.23 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,573.15 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 480 หลักทรัพย์ ลดลง 601 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 422 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเป็นลักษณะของการแกว่งตัว Sideway up จากปัจจัยภายในประเทศเรื่องความชัดเจนของการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งได้มีการจัดแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันนี้
ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของภาครัฐ อย่างกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง และธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงหนุนให้กับดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยยังเป็นภาพของการปรับตัวขึ้นอย่างจำกัด เพราะยังมีความไม่ชัดเจนของปัจจัยต่างประเทศที่กดดัน ส่งผลต่อมูลค่าการซื้อขายที่ยังไม่สูงมากนัก
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ดัชนีรีบาวด์ขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นยุโรปที่เปิดมาในช่วงบ่ายวันนี้รีบาวด์ขึ้นมาเช่นเดียวกัน หลังจากที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งที่ผ่านมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณการปรับลดขนาดงบดุลของสหรัฐฯกดดันตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นยุโรปในช่วงก่อนหน้านี้
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ยังคงเป็นลักษณะ Sideway up โดยเป็นการปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด มีปัจจัยหนุนมาจากความชัดเจนของการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลัง จากครึ่งปีแรกที่ภาครัฐเน้นด้านการเมืองมากกว่า ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในอนาคต ที่จะมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวขึ้น แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกที่ยังคงกดดันอยู่บ้าง
พร้อมให้แนวต้าน 1,590-1,600 จุด แนวรับ 1,560 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,674.31 ล้านบาท ปิดที่ 45.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,537.01 ล้านบาท ปิดที่ 379.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,053.37 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 975.72 ล้านบาท ปิดที่ 518.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 957.13 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท