โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ" หุ้นบมจ.บางกอกแร้นช์ (BR) มองแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตโดดเด่น จากปริมาณการขายเป็ดที่เพิ่มขึ้น หลังเข้าซื้อกิจการที่ปิดตัวลงในเนเธอร์แลนด์ ส่งผลทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 9 ล้านตัวต่อปี จากเดิม 5 ล้านตัวต่อปี และยังทำให้ BR ขึ้นเป็นโรงชำแหละเป็ดเพียงรายเดียวในเนเธอร์แลนด์อีกด้วย อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก โดยมีความสนใจในประเทศกัมพูชา เวียดนาม และอินโดนีเซีย
ส่วนการแตกไลน์ธุรกิจไปยังธุรกิจอาหารสำเร็จรูป ก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยในการสนับสนุนรายได้และกำไรของ BR ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต โดยคาดว่าจะสามารถผลิตได้ในช่วงไตรมาส 3/60
เมื่อเวลา 15.56 น. ราคาหุ้น BR อยู่ที่ 7.45 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดลง 0.07%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ไอร่า ซื้อ 9.30 เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 8.60 บัวหลวง ซื้อ 8.00 นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มรายได้ของ BR ปีนี้จะเติบโตได้ราว 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นไปตามปริมาณการขายเป็ดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ BR ได้เข้าซื้อกิจการ VSE ซึ่งเป็นโรงงานชำแหละเป็ดในเนเธอร์แลนด์ที่ได้ปิดกิจการ ส่งผลให้กำลังการผลิตในยุโรป เพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านตัวต่อปี เป็น 9 ล้านตัวต่อปี ขณะที่ BR ก็มีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก โดยมีความสนใจในประเทศกัมพูชา เวียดนาม และอินโดนีเซีย แต่ยังไม่สามารถเห็นความชัดเจนได้ในขณะนี้ ซึ่งการขยายธุรกิจดังกล่าวจะเป็นการช่วยชดเชยการอิ่มตัวในประเทศไทย และการแข่งขันในยุโรป ประกอบกับ BR ยังมีแผนที่จะผลิตสินค้าประเภท ready-to-eat หรืออาหารพร้อมทาน ส่งให้กับร้านโมเดิร์นเทรด ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงตามเป้าหมาย ก็น่าจะส่งผลดีต่อมาร์จิ้นในประเทศปรับตัวดีขึ้น "เรามองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 น่าจะเติบโตราว 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา เป็นไปตามปริมาณการขายเป็ดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ" นักวิเคราะห์ฯ กล่าว นายพลเทพ วงษ์นาค นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BR ในไตรมาส 2/60 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/60 จากราคาขายเป็ดที่เพิ่มขึ้น หลังจากยุโรป และภูมิภาคอื่น ๆ ได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของไข้หวัดนกในช่วงปลายปี 59 ถึงต้นปี 60 ส่งผลต่อมาร์จิ้นปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ยอดขายในเนเธอร์แลนด์ก็ปรับตัวสูงขึ้น จากการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เนื่องจากการเลิกกิจการของ VSE คู่แข่งเพียงรายเดียว ซึ่งส่งผลให้ BR สามารถรวม Supply chain รวมถึงเครื่องจักรอื่นๆ มาอยู่ในโรงชำแหละเป็ดของ Tomassen Duck-To ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ BR ส่งผลให้ Tomassen Duck-To กลายเป็นโรงชำแหละเป็ดเพียงแห่งเดียวในเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังได้ขยายไลน์ธุรกิจไปสู่อาหารสำเร็จรูปอีกด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะดำเนินการผลิตได้ในไตรมาส 3/60 ก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะเข้ามาสนับสนุนรายได้และกำไรสุทธิของปีนี้และปีต่อไปให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยปีนี้คาดรายได้จากธุรกิจอาหารสำเร็จรูปจะเติบโตราว 400 ล้านบาท นายนภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BR ในไตรมาส 2/60 ก็น่าจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/60 เป็นไปตามราคาขายเป็ดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 3-5% จากปลายปี 59 เกิดโรคระบาดไข้หวัดนกในประเทศฮังการี และโปแลนด์ ซึ่งเป็นคู่แข่งของ BR ทำให้ซัพพลายหายไปค่อนข้างมาก โดยในไตรมาส 2/60 ก็เริ่มกลับเข้าสู่ปกติแล้ว สำหรับโรงงานอาหารสำเร็จรูป ที่จ.ปทุมธานี คาดจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงไตรมาส 3/60 โดยจะเน้นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ่านสินค้า ready-to-eat และ ready-to-cook ซึ่งน่าจะเห็นออเดอร์เข้ามาชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า และน่าจะส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ โดยปีนี้ยังคงคาดการณ์รายได้จะเติบโตราว 10% และกำไรสุทธิจะเติบโตราว 128% จากปีก่อน "โรงงานที่ปทุมธานี น่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 3 นี้ แต่การเข้ามาของออเดอร์ เรายังไม่เห็นภาพชัดเจนมาก เนื่องจากเป็นช่วงของการเริ่มต้น แต่น่าจะเห็นได้ชัดตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่เข้ามาสนันสนุนให้รายได้ กำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้น"นายนภนต์ กล่าว