โบรกฯเชียร์"ซื้อ" UNIQ มองความสามารถทำกำไรโดดเด่น,ลุ้นได้งานรัฐเพิ่มเติม Backlog นิวไฮต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 22, 2017 13:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) มองเป็นหุ้นรับเหมารายใหญ่ที่สร้างอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ได้ดีเมื่อเทียบกับบริษัทผู้รับเหมาใหญ่รายอื่น ประกอบกับ รายได้มีโอกาสเติบโตมากจากฐานที่เล็ก เป็นผลจากการมีงานในมือ (Backlog) สูงถึง 3 หมื่นล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ และเป็นจุดเปลี่ยนของ UNIQ

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสใด้งานใหม่โครงการภาครัฐที่เริ่มทยอยเปิดประมูลในหลายโครงการทั้งโครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย มอเตอร์เวย์ และ ทางด่วน ซึ่งอยู่ในแผนของกระทรวงคมนาคมอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยเติม Backlog ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผลักดันให้กำไรในช่วงปี 60 และปี 61 ขยายตัวเป็นตัวเลขสองหลัก

ขณะที่ราคาหุ้น UNIQ ยังถูก ทำให้ยังน่าสนใจต่อการลงทุน

พักเที่ยงราคาหุ้น UNIQ อยู่ที่ 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท (+0.54%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.25%

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          เอเซีย พลัส            ซื้อ                    25.00
          ทิสโก้                 ซื้อ                    24.50
          ธนชาต                ซื้อ                    23.00
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ       ซื้อเก็งกำไร             22.50

นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า UNIQ เป็น 1 ใน 4 ของบริษัทผู้รับเหมาไทยรายใหญ่ ซึ่งมีโอกาสจะได้รับงานโครงการภาครัฐใหม่ โดยเร็ว ๆ นี้มีงานโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และยังมีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย อาทิ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย เป็นต้น โครงการทางด่วน ดาวคะนอง-พระราม 3 ซึ่งเป็นไปตามแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง ปี 2559-2560 ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งยังไม่นับรวมโครงการงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในโครงการ พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยแต่ละโครงการมีมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท

เหตุผลที่ UNIQ น่าลงทุนที่สุดในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะทำได้ดี จากที่ผ่านมามีอัตรากำไรสุทธิ 7% สูงกว่าผู้รับเหมารายใหญ่อื่นที่ส่วนใหญ่จะทำอัตรากำไรสุทธิได้ราว 2-3% หรือสูงสุดเพียง 5% อีกทั้งรายได้ของ UNIQ มีโอกาสเติบโตมากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ Backlog สูงถึง 3 หมื่นล้านบาททำสถิติสูงสุด ซึ่งจะหนุนรายได้ของ UNIQ เติบโตได้มากจากฐานขนาดเล็กเมื่อเทียบกับผู้รับเหมารายใหญ่ อาทิ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) บมจ.ช.การช่าง (CK) และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) รวมทั้งโอกาสได้งานใหม่ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ก็จะทำให้รายได้เติบโตได้มากขึ้นอีก

นอกจากนี้ ราคาหุ้นของ UNIQ ถูกที่สุดในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ โดยปัจจุบันมี P/E อยู่ที่ 18.5 เท่า ขณะที่ หุ้นรับเหมาขนาดใหญ่มี P/E ที่ 25-30 เท่า

"คาดว่ากำไรในช่วง 3 ปีนี้(ปี 60-62) จะมีการเติบโตปีละ 20% และ P/E อยู่ที่ 18.5 เท่า ถ้าเติบโตมากขึ้น P/E จะถูกลง"นายประสิทธิ์ กล่าว

นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า จุดเด่นของ UNIQ คือเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีอัตรากำไรขั้นต้นทุนสูงถึง 17% เทียบกับผู้รับเหมารายใหญ่อื่นที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 8-10% เท่านั้น เนื่องจาก UNIQ สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี

นอกจากนี้ UNIQ สามารถเพิ่ม Backlog ได้เป็น 3 หมื่นล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นมากจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 4 โครงการยกระดับ ช่วงคลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ วงเงิน 9,990 ล้านบาท และสัญญาที่ 6 สัญญาจ้างออกแบบควบคุมงานก่อสร้างระบบราง ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-สุวินทวงศ์ วงเงิน 3,690 ล้านบาท เป็นจุดเปลี่ยนให้ Backlog เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และถือเป็นสถิติสูงสุด และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสจะได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้น

สำหรับประมาณการรายได้ของ UNIQ ในปีนี้จะเติบโต 4% จากปีก่อนที่มี 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิคาดเติบโต 10% จากปีก่อน เป็น 970 ล้านบาท และปี 61 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14% เป็น 1.1 พันล้านบาท ส่วนรายได้คาดโต 5% แนะนำให้ Trading Buy เพราะมี P/E สูงมาก โดยปีนี้มี 18 เท่า

ด้าน บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ โดยยังคงมองบวกต่อความสามารถในการควบคุมต้นทุนและความสามารถในการทำกำไรของ UNIQ แม้จะเผชิญกับความล่าช้าในโครงการสายสีแดง แต่ UNIQ ยังคงรายงานอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่น่าประทับใจที่ 10.9% ในปี 59 และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7% เทียบกับอัตรากำไรจากการดำเนินงานและอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยของกลุ่มฯ ที่ 5.4% และ 4.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ UNIQ มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานสูงขึ้นไปอีกที่ 11.4% ในไตรมาส 1/60 ขณะที่อัตรากำไรสุทธิยืนอยู่ที่ 7% ในปี 60-62 ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า UNIQ จะมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ในช่วง 10.5-11% ในปี 60-62 โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.1-7.6%

อย่างไรก็ตาม ได้ปรับประมาณการกำไรของ UNIQ ลง 5-9% ในปี 60-62 เนื่องจากปรับลดสมมติฐานมูลค่างานใหม่ลง 28% ในปี 60 เนื่องจากความกังวลเรื่องภาวะการแข่งขันในโครงการประมูลรถไฟทางคู่ที่สูงขึ้น หลังจากรัฐบาลมีนโยบายอนุญาตให้ผู้รับเหมาขนาดกลางเข้าประมูลโครงการได้มากขึ้น

แต่ปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเป็น 17-18% จาก 16-17% ในช่วงปี 60-62 เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาดที่ 18.5% ในไตรมาส 1/60 และยังคงชอบ UNIQ ในแง่ของการมีความสามารถในการทำกำไรที่สูงที่สุดในบรรดา 4 ผู้รับเหมารายใหญ่ของไทย และด้วยปรับมาใช้ปี 61 เป็นปีฐาน เพื่อสะท้อนผลกระทบอย่างเต็มปีของวงจรการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานรอบใหม่ ราคาเป้าหมายของจึงยังคงอยู่ที่ 23 บาท และคงคำแนะนำ "ซื้อ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ