นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดว่า ตลท.จะสามารถเปิดกระดานซื้อขายหลักทรัพย์ที่ 3 ที่เป็นแพลทฟอร์มใหม่เพื่อรองรับธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในช่วงปี 62 ซึ่งจะมีธุรกิจสตาร์ทอัพเข้าจดทะเบียนเป็นรายแรกทันที หลังจากปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่มีความพร้อม 5 ราย
"ภายในปี 62 จะสามารถเริ่มใช้แพลทฟอร์มที่รองรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯของธุรกิจสตาร์ทอัพได้ และจะมีธุรกิจสตาร์ทอัพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้เป็นครั้งแรกในปี 62 ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพของรัฐบาล"นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้เริ่มเดินสายให้ข้อมูลกับธุรกิจสตาร์ทอัพหลายแห่ง และพบว่ามีธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจำนวน 5 บริษัท ที่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยหลักการประเมินศักยภาพของธุรกิจสตาร์ทอัพจากรายได้ กำไร และความยั่งยืนของธุรกิจ เป็นต้น
ทั้งนี้ การผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจะเป็นประโยชน์กับธุรกิจสตาร์ทอัพในหลายเรื่องเงินทุน ,ระบบที่เป็นมาตรฐาน ภาพลักษณ์ โอกาสการทำธุรกิจ และการหาพันธมิตร
"ตอนนี้อุปสรรคที่ทำให้สตาร์ทอัพยังไม่สามารถเติบโตได้ คือ แนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยังไม่สามารถช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตได้ แม้ว่าสตาร์ทอัพจะมีแนวคิดและไอเดียที่ดีและน่าสนใจ ซึ่งเราก็พยายามเดินสายไปให้ความรู้สตาร์ทอัพเหล่านี้ เพื่อให้ความรู้ในเรื่องการทำธุรกิจ"นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนช่องทางการเข้าจดทะเบียนของธุรกิจสตาร์ทอัพ เบื้องต้นมี 3 ช่องทาง ได้แก่ การเข้าจดทะเบียนในแพลทฟอร์มใหม่ที่ตสาดหลักทรัพย์ฯกำลังพัฒนา ซึ่งจะเป็นลักษณะการซื้อขายผ่านตลาดต่อรองนอกตลาด (OTC market), ตลาด mai หรือตลาด SET ซึ่งขึ้นอยู่กับศักยภาพและความต้องการของธุรกิจสตาร์ทอัพนั้น ๆ
สำหรับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใน mai ในปีนี้ยังคงเป้าหมายเดิมที่ระดับ 15 บริษัท โดยในช่วงที่ผ่านมาเข้าจดทะเบียนไปแล้ว 5 บริษัท และช่วงครึ่งปีหลังจะเข้าจดทะเบียนอีก 10 บริษัท ทำให้ภาพรวมการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี