นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท. ตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ประสบปัญหาราคาน้ำมันปาล์มในประเทศตกต่ำ อันเนื่องมาจากปริมาณผลผลิตล้นตลาด จึงเริ่มดำเนินการจัดซื้อน้ำมันไบโอดีเซล (B100) ซึ่งผลิตจากน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มเติมจากยอดจัดซื้อปกติซึ่งอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านลิตรต่อเดือน หรือเทียบเท่าปริมาณน้ำมันปาล์มดิบกว่า 40,000 ตันต่อเดือน
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา ปตท. จัดซื้อน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายจะรับซื้ออีกในปริมาณ 23 ล้านลิตร หรือเทียบเท่าปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ 20,000 ตัน ซึ่งเป็นการซื้อเพิ่มเติมจากยอดจัดซื้อเดิม ช่วยพยุงระดับราคาปาล์มน้ำมันให้สูงขึ้นในช่วงน้ำมันปาล์มล้นตลาด และส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น โดยได้เข้าซื้อน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มเติม เทียบเท่าปริมาณน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 9,000 ตัน และปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการจัดซื้อน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มเติมอีก 2,000 ตัน ก่อนจะทยอยซื้อให้ครบ 20,000 ตัน ตามเป้าที่วางไว้โดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และสนองนโยบายของกระทรวงพลังงานที่ต้องการให้ผู้ค้าน้ำมันรับซื้อน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น
ปตท. ในฐานะผู้ค้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (HSD) รายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยปกติจะจัดซื้อน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งผลิตจากน้ำมันปาล์มดิบจากบมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. เพื่อนำมาผสมกับน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ก่อนผลิตเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (HSD) จำหน่ายแก่ผู้บริโภคต่อไป
“ปตท. ให้ความสำคัญกับการร่วมดูแลสังคมชุมชน ควบคู่กับการดูแลความความมั่นคงทางพลังงานของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ปตท. ร่วมสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรไทยในรูปแบบต่างๆ อาทิ การมอบส่วนลดน้ำมันลิตรละ 30 สตางค์ แก่เกษตรกรที่ชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกรของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) การเปิดพื้นที่จำหน่ายข้าวสารโดยตรงจากมือชาวนาในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในช่วงราคาข้าวตกต่ำ เป็นต้น ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งภารกิจเพื่อดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมของ ปตท. นอกเหนือจากภารกิจหลักในการจัดหาและสำรองพลังงานเพื่อความมั่นคงของประเทศ" นายสรัญ กล่าว