นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปรับลดเป้าเปิดโครงการใหม่ปีนี้เหลือ 4-5 โครงการ มูลค่า 5,600 - 7,200 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเปิด 10 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท เนื่องจากโครงการที่เหลืออยู่ระหว่างขอใบอนุญาตสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งอาจจะต้องล่าช้าไปเปิดในปี 61
สำหรับโครงการที่จะเปิดในปีนี้แบ่งเป็นโครงการ ณุศามายโอโซน เขาใหญ่ โซน B C และ D มูลค่า 1,800 ล้านบาท โครงการ เลค โคโม่ เป็นบ้านหรูริมทะเลสาปกว่า 30 ไร่ ภายในโครงการ ณุศาศิริซิตี้ พระราม 2 มูลค่า 2,000 ล้านบาท และโครงการสุดท้ายคือโครงการ ณุศา รายา ภูเก็ต เป็นคอนโด เรสซิเดนซ์ และ ศูนย์ดูแลสุขภาพระดับไฮเอนพานาซี มูลค่า 1,800 ล้านบาท ส่วนอีก 1 โครงการอยู่ระหว่างรอใบอนุญาต EIA หากทันก็จะเปิดในปีนี้ทันที
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ของปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท และยอดขายที่ 5,500 ล้านบาท โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯมียอดขายแล้ว 1,372 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 120%
ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 1,000 ล้านบาท และบริษัทฯยังมีสต็อกพร้อมขายอีกกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทมีแผนจะใช้กลยุทธ์ทางด้านการตลาด โดยจะมุ่งเน้นการจัดรายการส่งเสริมการตลาดโดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่รักสุขภาพ ซึ่งในปัจจุบันมีการส่งเสริมการขายหลักในโครงการ The Greatest Wealth is Health ด้วยการการันตีผลตอบแทนสูงสุด 9.5% แบ่งเป็น การการันตี ยิว 5-6.5% บวกแพคเกจดูแลสุขภาพจากพานาซี เมดิเคิล เซ็นเตอร์ 3% และเพิ่มความพิเศษจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพจาก บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต มูลค่าสูงสุด 10 ล้านบาท นาน 6 ปี
"ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคา 3 ล้านบาท ขึ้นไปยังถือว่าอยู่ในภาวะปกติ และยังคงมียอดขายที่เหมาะสม แต่ในส่วนของที่มีปัญหาคืออสังหาริมทรัพย์ราคา 1-2 ล้านบาท เนื่องจากมียอดปฎิเสธสินเชื่อสูงถึง 50% ซึ่งบริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์การขายให้โดยให้ผู้ที่ไม่สามารถกู้ได้มาผ่อนกับทางบริษัทฯในอัตราดอกเบี้ยต่ำระยะแรก ก่อนที่จะนำเงินดังกล่าวไปเป็นเงินก้อนสำหรับเงินดาวน์ของธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยได้บางส่วน ขณะเดียวกันบริษัทฯก็จะไม่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท อีก "นายวิษณุ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯยังปักธงในตลาดประเทศจีนโดยนำธุรกิจดูแลสุขภาพระดับ ไฮเอนด์ Panacee Wellness เป็นธุรกิจแรกที่จะไปเปิดให้บริการจับกลุ่มลูกค้าชาวจีนระดับ B+ ที่รักสุขภาพที่มีอยู่จำนวนมาก และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้พันธมิตรชาวจีนที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่น คือการลงทุนในอาคารและสถานที่ให้ใช้ฟรีใน 2 ปีแรก ก่อนที่จะคิดค่าเช่าในปีที่ 3 เพียง ตารางเมตรละ 150 บาทต่อเดือน
โดยบริษัทฯเตรียมเปิดสาขาแรกที่ เป่ยไต้เหอ เมืองฉินหวงเตา มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เป็นสาขาแรกภายในต้นปี 61 ด้วยงบลงทุนราว 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้คาดว่าจะคืนทุนภายใน 3-5 ปี นอกจากนี้ยังมีแผนในการเปิดให้บริการเพิ่มที่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และมณฑลอื่นๆ โดยตั้งเป้าหมายจะเปิดไม่ต่ำกว่า 10 สาขาภายใน 5 ปีข้างหน้า (61-65) ด้วยมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อสาขา และจะคาดว่าจะสร้างร้ายได้มากกว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน