นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ว่า ทอท.ได้เปิดประมูลไปแล้ว 3 งานโดยคาดว่าจะรู้ผลในช่วงเดือน ส.ค.- ต.ค.60 ส่วนงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) คาดจะรู้ผลก่อนส.ค.60
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 8 เดือน (ต.ค.59-พ.ค.60) ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.จำนวน 86,942,131 คน เพิ่มขึ้น 7.17% โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 48,250,239 คน เพิ่มขึ้น 4.56% และผู้โดยสารภายในประเทศ 38,691,892 คน เพิ่มขึ้น 10.61% ซึ่งผู้โดยสารแยกตามสัญชาติที่มาใช้บริการมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รัสเซีย และอินเดีย
ขณะที่จำนวนเที่ยวบิน มีจำนวน 551,405 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 6.21% โดยแบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 274,796 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 2.07% และเที่ยวบินภายในประเทศ 276,609 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.68% และการขนถ่ายสินค้าและไปรษณียภัณฑ์จำนวน 1,040,881 ตัน เพิ่มขึ้น 12.19% ซึ่งปริมาณการขนถ่ายสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน AOT บริหาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ซึ่ง AOT ได้จัดทำแผนลงทุนระยะยาว 10 ปี (ปี 59 – 68) สำหรับพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งตามแนวทางแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยาน วงเงินประมาณ 2.2 แสนล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานของ ทอท.ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 185 ล้านคนต่อปี
นายนิตินัย กล่าวว่า ปัจจุบัน ทั้ง 6 ท่าอากาศยานมีจำนวนผู้โดยสารรวม 101 ล้านคน จากที่รองรับได้ 83.5 ล้านคน แต่ในปี 63-64 ที่การขยายท่าอากาศยานจะแล้วเสร็จ และจำนวนผู้โดยสารจะโตแบบก้าวกระโดด
นอกจากนี้ AOT ได้รับมอบนโยบายจากรัฐบาลให้ร่วมดำเนินการบริหารจัดการท่าอากาศยานร่วมกับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) โดยคาดว่าแผนบูรณาการร่วมกันจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค.นี้ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาตรวจเยี่ยม AOT เพื่อร่วมรับฟังความก้าวหน้าแผนบูรณาการร่วมกับกรมท่าอากาศยาน ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานมีท่าอากาศยานภายใต้การดูแล 28 แห่ง
"เรายืนยันมีความพร้อมบริหารจัดการสนามบิน โดยมองว่าควรจะมี Hub ในภาคอีสาน จะเป็นที่อุดรฯ หรือ อุบลฯก็ได้...เร็วๆนี้จะประชุมร่วมกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรมท่าอากาศยาน และทอท.ด้วยกัน"
ด้านนายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า ขณะนี้ ทอท.ได้ส่งหนังสือเชิญตัวแทนของผู้ผลิตระบบ APM ที่มีอยู่ 4 ราย ได้แก่ มิตซูมิชิ ซีเมนส์ บอมบาดิเอร์ และ ISI จากญี่ปุ่น เข้ามาหารือ ขณะเดียวกันคณะกรรมการราคากลางก็อยู่ระหว่างพิจารณาราคากลาง ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะแตกต่างกับราคาในการประมูลครั้งก่อนที่ 2,895 ล้านบาท โดยคาดว่าในเดือน ส.ค.นี้จะรู้ผล
ทั้งนี้ งาน APM ล่าช้ากว่าแผน 1 เดือน หลังจากล้มประมูลมา 2 รอบแล้วซึ่งงาน APM ต้องใช้ระยะเวลา 33 เดือน แต่จะไม่ทำให้ภาพการบริการล่าช้า
ส่วนงานระบบสายพานลำเลียง ราคากลางประมาณ 3 พันล้านบาท คาดว่าจะประมูลแล้วเสร็จในเดือนต.ค.นี้ ส่วนงานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ ราคากลาง 1.6 หมื่นล้านบาท ได้ขายเอกสารประกวดราคาแล้ว มีจำนวน 8 รายรอยื่นซอง ในวันที่ 2 ส.ค.และประกาศผลในวันที่ 11 ส.ค.นี้
และอีก 2 งานสุดท้ายของโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 จะเปิดประมูลให้เสร็จภายในปี 60 ได้แก่งานก่อสร้างอาคารที่จอดรถและสำนักงานสายการบิน และงานก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันออก มูลค่างานประมาณ 6-7 พันล้านบาท