นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลการจับสลากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 อย่างเป็นทางการที่ออกมานั้น กลุ่มบริษัทได้รับการคัดเลือกจำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวมประมาณ 9 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกทั้งหมด ขณะที่โครงการของกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตรที่บริษัทเป็นผู้สนับสนุนไม่ได้รับการจับสลากคัดเลือก
"ตามประกาศของกกพ.เราได้ 2 โครงการ รวม 9 เมกะวัตต์ ส่วนของสหกรณ์ไม่มี ก็คงจะโชคไม่ดีส่วนหนึ่งจากการจับสลาก เพราะการแข่งขันสูงมาก หลังจากนี้เราก็คงไม่ไปเจรจาเพื่อขอเป็นผู้สนับสนุนในโครงการของสหกรณ์เพิ่ม เพราะเราทำแล้วก็ควรต้องได้กำไร ถ้ากำไรบางมากเราก็คงไม่ทำ เพราะโครงการเหล่านี้เป็นโครงการเล็กที่เพื่อช่วยเกษตรกรและหน่วยงานราชการ เมื่อเทียบกับพอร์ตลงทุนต่างประเทศของเราที่มีเป็นหมื่นล้านบาท"นายบัณฑิต กล่าว
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการที่กลุ่มบริษัทสนับสนุนทั้ง 2 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 8.94 เมกะวัตต์ คือ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรี) กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตสุพรรณบุรี) กำลังการผลิต 3.94 เมกะวัตต์
การสนับสนุนโครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร เป็นไปตามนโยบายของบริษัทในการดำเนินงานที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรและสังคม ตามแนวทางการทำกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) ซึ่งโครงการที่กลุ่มบริษัทให้การสนับสนุนในปีนี้ ก็พร้อมที่จะเดินหน้าทันที และยังคงเน้นการใช้เทคโนโลยีทันสมัยระดับโลก มาช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 3 แห่งในอินโดนีเซียนั้น บริษัทเตรียมที่จะชำระเงินค่าหุ้นพร้อมโอนหุ้นในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งทำให้มีกำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพในมือเข้ามาราว 182 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าเทียบเท่าโซลาร์เกือบ 600 เมกะวัตต์
ขณะที่เฟซบุ๊ก ของ BCPG ระบุด้วยว่า บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการในประเทศหลากหลายรูปแบบ ซึ่งนอกจากโครงการโซลาร์สหกรณ์หรือราชการแล้ว ยังมีโครงการผลิตไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวลแบบผสมผสาน หรือ SPP ไฮบริดเฟิร์ม และ VSPP มินิไฮบริดเฟิร์ม และโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งมีพันธมิตรจากหลากหลายสาขาที่พร้อมจะร่วมมือกับบริษัท โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศรวมทั้งสิ้นประมาณ 30 เมกะวัตต์