ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล (ICC) ที่ระดับ “AA"
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าประเภทชุดชั้นในสตรี เครื่องแต่งกายบุรุษ และเครื่องสำอางของเครือสหพัฒน์ ตลอดจนความหลากหลายของสินค้า และช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศของบริษัท
ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงนโยบายการเงินที่มีความระมัดระวังและสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตดังกล่าวมีข้อจำกัดบางส่วนจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค
สถานะทางธุรกิจของ ICC ที่แข็งแกร่งนั้นได้รับแรงหนุนจากความหลากหลายของสินค้าและสถานะทางการแข่งขันที่เข้มแข็งของบริษัทในตลาดแฟชั่นของไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทชุดชั้นในสตรี เครื่องแต่งกายบุรุษ และเครื่องสำอาง สินค้าที่บริษัทจัดจำหน่ายนั้นครอบคลุมทั้งตราสัญลักษณ์จากต่างประเทศและตราสัญลักษณ์ของบริษัทเองซึ่งมีมากกว่า 100 ตรา และจำหน่ายผ่านจุดขายประมาณ 2,700 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ประสบการณ์ที่ยาวนานในการกระจายสินค้าแฟชั่นและความร่วมมือที่ดีจากบริษัทผู้ผลิตสินค้าและผู้จัดหาภายในเครือสหพัฒน์เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทยังคงรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันเอาไว้ได้
บริษัทมีสถานะการแข่งขันที่แข็งแกร่งในตลาดสินค้าแฟชั่นของประเทศไทย กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในสตรีของบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งสิ้น 62% ในตลาดชุดชั้นในสตรีระดับกลางถึงระดับสูงในปี 2559 โดยมี “Wacoal" เป็นตราสัญลักษณ์หลักและยังคงเป็นตราสินค้าชั้นนำในตลาดชุดชั้นในสตรีที่จำหน่ายผ่านทางห้างสรรพสินค้า ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 55.4% ในปี 2559 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 54% ในปี 2558 การปรับขั้นตอนภายในและลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนในการขนส่งสินค้าในแผนกชุดชั้นในสตรีส่งผลให้ยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังคงสถานะทางการแข่งขันในตลาดเครื่องแต่งกายบุรุษและเครื่องสำอางเอาไว้ได้โดยได้รับแรงหนุนจากตราสัญลักษณ์ที่แข็งแกร่งอย่างเช่น "Arrow" และ "Lacoste" ในตลาดเครื่องแต่งกายบุรุษ และ "บีเอสซี คอสเมโทโลจี" ที่เป็นรู้จักอย่างดีในตลาดเครื่องสำอางในประเทศอีกด้วย
การพิจารณาความเสี่ยงของบริษัทยังคำนึงถึงการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นและเครื่องแต่งกายด้วย โดยบริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันจากผู้ผลิตจำนวนมากและหลากหลายประเภท รวมทั้งจากกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดที่รุนแรงด้วย การแข่งขันที่รุนแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการต้องมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้าและแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวยังส่งผลลบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคอีกด้วยเช่นกัน
สินค้าหลักที่สร้างรายได้ส่วนใหญ่ให้แก่บริษัทคือชุดชั้นในสตรี (31%) เครื่องแต่งกายบุรุษ (27%) และเครื่องสำอาง (10%) รายได้ของบริษัทในปี 2559 อยู่ที่ 12,615 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% จากปี 2558 โดยมีสินค้ากลุ่มชุดชั้นในสตรีและเครื่องแต่งกายบุรุษเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโต รายได้สำหรับช่วง 3 เดือนแรกของปี 2560 อยู่ที่ 2,997 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบันและระดับหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูงได้ส่งผลกระทบด้านลบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค บริษัทพยายามมองหาโอกาสในการเพิ่มยอดขายจากช่องการจัดจำหน่ายใหม่ๆ มาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์หรือสื่อโทรทัศน์เพื่อที่ให้ตอบสนองกับรูปแบบการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มบริษัทสหพัฒน์ซึ่งรวมถึงบริษัทได้ประกาศที่จะเป็นพันธมิตรกับ Lazada และ Oshopping เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อโทรทัศน์
สถานะทางการเงินของบริษัทได้รับแรงหนุนจากนโยบายด้านการเงินที่ระมัดระวังและการมีสภาพคล่องที่เพียงพอ บริษัทมีอัตรากำไรไม่สูงเนื่องจากเป็นลักษณะของธุรกิจแบบตัวกลางการค้า โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทอยู่ที่ระดับ 3% ในปี 2559 และ 2.1% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2560 อัตรากำไรที่ลดลงเป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อใช้ไปในการดึงดูดความสนใจของลูกค้าและสร้างการรับรู้ในตราสินค้าให้มากยิ่งขึ้น
สภาพคล่องของบริษัทยังคงแข็งแกร่งโดยมีแรงหนุนจากสถานะปลอดภาระหนี้ของบริษัท บริษัทมีนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังและคงสถานะปลอดภาระหนี้ได้เป็นระยะเวลานาน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2560 บริษัทยังคงสถานะปลอดภาระหนี้ ทั้งนี้ บริษัทย่อยมีเงินกู้ 30 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน บริษัทมีภาระหนี้ที่เกิดจากการค้ำประกันให้แก่บริษัทในเครือสหพัฒน์จำนวน 332 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2560 โดยมูลค่าค้ำประกันเพิ่มขึ้นจาก 259 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 อันเป็นผลจากการค้ำประกันให้แก่ บริษัท สหพัฒน์เรียลเอสเตท จำกัด โดยบริษัทสหพัฒน์เรียลเอสเตทเนินธุรกิจเกี่ยวกับคลังสินค้าและการขนส่งของเครือสหพัฒน์ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 19.9%
ความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทได้รับการสนับสนุนจากสภาพคล่องของการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของเงินลงทุนของบริษัทในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 20 แห่งคิดเป็นมูลค่า 7,437.6 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2560 โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อมูลค่าตลาดของเงินลงทุนในบริษัทจดทะเบียนอยู่ในระดับต่ำมากที่ระดับประมาณ 10%
ในช่วงปี 2560-2562 สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตเล็กน้อย โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปลายปี 2560 และรายได้ของบริษัทจะเติบโตในอัตราที่เร็วขึ้นในปี 2561 นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อผลักดันให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ในช่วงปี 2560-2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 850-950 ล้านบาทต่อปี เมื่อพิจารณาถึงนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังของบริษัทแล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่าในช่วงปี 3 ปีข้างหน้าบริษัทจะยังคงสภาพคล่องและโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแรงเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดใดในโครงสร้างเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่งในผลิตภัณฑ์หลักเอาไว้ได้ อีกทั้งยังคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงนโยบายการเงินที่ระมัดระวังและรักษาสภาพคล่องทางการเงินในระดับสูงได้ต่อไป
ความเสี่ยงจากการถูกปรับลดอันดับเครดิตของบริษัทมาจากความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงกว่าที่คาดไว้เป็นระยะเวลานาน หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินที่เป็นไปในเชิงรุกมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่การปรับเพิ่มอันดับเครดิตจะเกิดขึ้นได้หากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากจนส่งผลให้ระดับกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ