โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) จากธุรกิจพื้นที่เช่าคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่คาดยอดขายที่ดินและการโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ รวมถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ก็จะส่งผลต่อกำไรสุทธิปีนี้ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่มองแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 น่าจะดีกว่าไตรมาสแรก จากการโอนที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมมากกว่า 500 ไร่ หนุนให้ต้นแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน WHA มียอดขายที่ดินแล้วราว 600 ไร่ จากเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 1,400 ไร่
ส่วนธุรกิจของ WHAUP ก็มีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าใหม่จำนวน 4 แห่ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น โดย WHA มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 70% รวมถึงน่าจะส่งผลต่อยอดขายไอน้ำและน้ำประปาเพิ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกันฐานะทางการเงินก็มีความแข็งแกร่งขึ้น จากการลดภาระต้นทุนทางการเงิน ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ของ WHAUP ได้นำเงินไปชำระคืนหนี้ ส่งผลต่อ D/E ปรับตัวลดลง
ราคาหุ้น WHA พักเที่ยงอยู่ที่ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท (+0.63%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.29%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ทิสโก้ ซื้อ 3.70 บัวหลวง ซื้อ 3.76 ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ซื้อ 3.54 ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 3.50 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ประเมินยอดขายที่ดินของกลุ่ม WHA ในปีนี้น่าจะทำได้ราว 1,312 ไร่ และมียอดโอนที่ 1,277-1,350 ไร่ น่าจะส่งผลดีต่อกำไรสุทธิในปีนี้ให้เติบโตมาที่ 3,800 ล้านบาท จากปีก่อน 2,898 ล้านบาท รวมถึงฐานะทางการเงินของบริษัทย่อยอย่าง WHAUP ที่มีความแข็งแกร่งขึ้นจากการลดภาระตุ้นทางการเงินภายหลังการขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) แล้วนำเงินมาชำระคืนหนี้แก่สถาบันการเงิน ทำให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนทุน (Net Interest-bearing Debt/Equity) ลดลง นอกจากนี้ ยังมองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 น่าจะดีกว่าไตรมาส 1/60 จากการรับรู้การโอนที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง "เรามองกำไรสุทธิน่าจะเติบโตมากกว่าปีก่อนจากยอดขายที่ดินและยอดโอนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มองรายได้อาจจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากปีนี้จะมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ลดลง โดยคาดรายได้ปีนี้จะทำได้ราว 13,000 ล้านบาท"นักวิเคราะห์ กล่าว ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ประเมินว่า กำไรสุทธิของ WHA ในปี 60 จะเติบโตมาอยู่ที่ 3,187 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน จากการเช่าคลังสินค้าในปีนี้ที่คาดจะเพิ่มขึ้นอีก 160,000 ตารางเมตร จากระดับ 170,000 ตารางเมตรในปีก่อน ขณะที่ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมคาดว่าจะมียอดโอนเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ไร่ จากปีก่อนมีการโอนเพียงกว่า 500 กว่า โดยมองความต้องการซื้อที่ดินน่าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่น่าจะส่งผลดีต่อราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ในส่วนของ WHAUP ซึ่ง WHA ถือหุ้นในสัดส่วน 70% สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เข้ามาเพิ่มอีก จากโรงไฟฟ้าจำนวน 4 แห่ง กำลังการผลิตรวม 128.8 เมกะวัตต์ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อรายได้ และช่วยสนับสนุนยอดขายไอน้ำและน้ำประปาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ WHA น่าจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลกำลังผลักดัน เนื่องจากมีที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม และมีคลังสินค้าอยู่ในพื้นเขต EEC หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 85% ประกอบกับฐานลูกค้าก็อยู่ในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลส่งเสริมเพื่อการยกระดับเศรษฐกิจในประเทศเช่นเดียวกัน โดยหากโครงการเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม จะเป็น Upside ต่อประมาณการระยะยาว และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ WHA เนื่องจากมูลค่าที่ดินใน EEC จะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้านบทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ WHA ในไตรมาส 2/60 กำไรสุทธิน่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด 131% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 855% จากไตรมาสแรก เนื่องจากมีการโอนที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมมากถึง 510 ไร่ โดยในส่วนนี้เป็นของกลุ่ม Continental จำนวน 473 ไร่ และมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากเงินชดเชยประกันภัยจากโรงไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับบมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) ประมาณ 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน WHA สามารถทำยอดขายที่ดินได้แล้วราว 600 ไร่ จากเป้าหมายยอดขายที่ดินใหม่ปีนี้ ที่คาดจะทำได้ 1,400 ไร่ โดย WHA ถือว่าเป็นผู้รับประโยชน์เต็มที่จากนโยบาย EEC จากมีที่ดินอยู่ถึง 9,000 ไร่