ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่าย ร่วงลงกว่า 10 จุด รับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานและแบงก์กดตลาด นำโดยหุ้นบมจ.ปตท. (PTT) ,ธ.กสิกรไทย (KBANK) ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกัน
เมื่อเวลา 14.52 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,568.03 จุด ลดลง 10.03 จุด (-0.64%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.08 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,570.43 จุด ลดลง 7.69 จุด (-0.49%)
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด โดยได้รับแรง take profit จากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอกประเทศ อย่างหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหุ้นในกลุ่มสินค้าเกษตร โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานได้รับแรงขายมาก หากมองที่ราคาน้ำมันในช่วงกลางปีจะเห็นได้ว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าไตรมาส 1/60 ราว 12% ซึ่งก็น่าจะทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานชะลอลงตามราคาน้ำมัน และปริมาณการผลิตน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้มีความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันจะลงมาต่ำกว่าระดับ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งก็จะไปกดดันผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ของกลุ่มพลังงานด้วย
นอกจากนี้หุ้นที่มี Valuation ที่แพงก็จะถูกขายทำกำไรออกมาด้วย และหลังจากที่ทำ Window Dressing เสร็จสิ้นแล้ว ตลาดฯก็จะมีความเสี่ยงจากการพักฐานต่อเนื่อง อันเป็นผลจากคาดการณ์ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 ที่อาจออกมาไม่ดีมากนัก พร้อมให้ Downside ไว้ที่ 1,530-1,550 จุด ซึ่งหากดัชนีฯลงมาแถวนี้ก็เป็นจังหวะซื้อได้ ส่วนแนวต้านในไตรมาส 3/60 ให้ไว้ที่ 1,640 จุด
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่จะอิงไปทางลบมากกว่า ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็อยู่ในแดนลบเล็กน้อย