บมจ.สากล เอนเนอยี ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 237.20 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.เคที ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้
วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ คาดว่าจะใช้เงินในไตรมาส 4/60 ถึง ไตรมาส 1/61 และใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพระบบสูบอัดและจ่ายก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ใช้เงินในช่วงปี 60-62 รวมถึงใช้ในโครงการจัดตั้งสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV (Ex-Pipeline) คาดว่าจะใช้เงินในปี 60-61 อีกทั้งยังใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้สำหรับการดำเนินการทั่วไป คาดว่าจะใช้เงินในปี 60-61
บริษัทประกอบธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน (Private Mother Station: PMS) โดยให้บริการอัดก๊าซธรรมชาติ NGV ให้รถขนส่งก๊าซธรรมชาติของ บมจ.ปตท. (PTT) เพื่อขนส่งไปให้กับสถานีบริการ NGV นอกแนวท่อส่งก๊าซ หรือสถานีลูก (Daughter Station) รวมถึงดำเนินการปรับปรุงคุณภาพก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดก่อนที่จะนำไปใช้ในส่วนอื่นๆ ต่อไป โดยมีลูกค้า คือ PTT
ปัจจุบัน บริษัทมีสถานีก๊าซธรรมชาติของตัวเองมี 2 สถานี คือ สถานีก๊าซธรรมชาติหลักปทุมธานี และ สถานีก๊าซธรรมชาติหลักสระบุรี
ขณะที่บริษัทถือหุ้น 99.99% ในบริษัท บริษัท เอสเค 15 จำกัด ซึ่งทำธุรกิจหลักให้เช่าอสังหาริมทรัพย์, และถือหุ้น 99.99% ใน บริษัท สากล เอนเนอยี ไบโอแมส พาวเวอร์ 15 จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล
แผนงานของโครงการในอนาคต คือ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบสูบอัดและจ่ายก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ด้วยการเพิ่มจำนวนช่องจ่ายก๊าซธรรมชาติ NGV (Trailer Bay) ที่สาขา บ้านนา-แก่งคอย จ.สระบุรี ปัจจุบันสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน (บ้านนา – แก่งคอย) มีช่องจ่ายก๊าซธรรมชาติ (Trailer Bay) จำนวน 12 ช่องจ่าย ทำหน้าที่อัดก๊าซธรรมชาติให้กับรถขนส่งของผู้รับจ้างขนส่งจากทาง ปตท. จำนวนหลายราย
ทั้งนี้ แผนกงานวิศวกรรมซึ่งเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบการปฏิบัติงานร่วมกับแผนกงานพัฒนาธุรกิจ ได้นำเสนอโครงการเพิ่มจำนวนช่องจ่ายก๊าซธรรมชาติให้กับบริษัท เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการอัดก๊าซธรรมชาติ ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาความแออัดในการจัดการระบบรถขนส่งก๊าซฯภายในสถานี และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถเพื่อรองรับปริมาณการอัดก๊าซฯที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ โดยบริษัทได้มีมติอนุมติให้ดำเนินการสร้างช่องจ่ายก๊าซเพิ่มจำนวน 8 ช่องจ่ายจากเดิมจำนวน 12 ช่องจ่าย เป็นจำนวน 20 ช่องจ่าย ในวงเงิน 15 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานโครงการภายในไตรมาส 4/60
รวมทั้งโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchanger System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องสูบอัดก๊าซธรรมชาติ (Gas Compressor) โดยมีแผนการปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพระบบแลกเปลี่ยนความร้อนของก๊าซธรรมชาติ Heat Exchanger System อาทิเช่น การหุ้มฉนวนกันความร้อนระบบท่อส่งก๊าซภายในสถานี การปรับปรุงระบบ Air Cooler การลดอุณหภูมิอากาศขาเข้า ฯลฯ โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและปริมาณการอัดก๊าซก๊าซธรรมชาติ และเป็นการเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน โดยมีงบประมาณโครงการ 15 ล้านบาท (สาขาปทุมธานี) และ 15 ล้านบาท (สาขาสระบุรี) รวมเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตามาส 4/60
โครงการปรับปรุงระบบ Pipe line ท่อก๊าซธรรมชาติและระบบควบคุมภายในสถานี (Automation System) เพื่อการเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมกระบวนการอัดก๊าซธรรมชาติ NGV โดยใช้ระบบอัตโนมัติ หรือ พีแอลซี (PLC) ในการประมวลผลให้กับฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ภายในกระบวนการ ทำให้มีความเสถียรภาพในการอัดก๊าซธรรมชาติ NGV เพิ่มขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการในการอัดก๊าซธรรมชาติ NGV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและใช้กำลังคนน้อยทำให้ประหยัดต้นทุนได้ในระยะยาว ของสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชนทั้งสองแห่งของทางบริษัทฯ จึงมีแนวทางการปรับปรุงระบบ Pipe line ท่อก๊าซธรรมชาติและระบบควบคุมภายในสถานี โดยมีงบประมาณดำเนินโครงการสองสถานีรวม 20 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 2/61
โครงการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่เครื่องสูบอัดก๊าซฯ (Gas Compressor Overhaul) เนื่องด้วยสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน ปทุมธานี ของบริษัทฯ ได้เปิดดำเนินการมามากกว่า 8 ปี และเพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพการในการดำเนินการอัดก๊าซธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดและเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการเรียกรับก๊าซฯ โดยมีงบประมาณในการดำเนินโครงการข้างต้นเป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 1/60
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนจะจัดตั้งสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV Conventional แบบ Ex-Pipeline จ.นครสวรรค์ ตามแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก นครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ติดกับสถานีควบคุมแรงดันก๊าซธรรมชาติ AN12 ต.พยุหะ อ.พยุหะ จ.นครสวรรค์ ตั้งเป้ายอดขายก๊าซ NGV ประมาณ 30-40 ตัน/วัน กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Target) เป็นรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ รถบัสขนส่งผู้โดยสาร โดยตั้งงบลงทุน 100 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินโครงการภายในไตรมาส 4/60
ผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 3 เดือนสิ้นสุด 31 มี.ค.60 มีรายได้รวม 84.07 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 60.49 ล้าบาท กำไรสุทธิสำหรับงวด 23.56 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 643.86 ล้านบาท หนี้สินรวม 225.80 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 418.05 ล้านบาท
ณ วันที่ 1 มิ.ย.60 บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 465.00 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 346.40 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 692.80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 465.00 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 930.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ณ วันที่ 1 มิ.ย.60 คือ กลุ่มครอบครัว สุเมธโชติเมธา ถือหุ้น 500,355,600 หุ้น คิดเป็น 72.22% หลังเสนอขาย IPO ในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 53.80%, กลุ่มครอบครัวนันที ถือหุ้น 192,444,400 หุ้น คิดเป็น 27.78% หลังเสนอขาย IPO ในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 20.69%,
บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี จากงบเฉพาะกิจการและหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทและบริษัทย่อย