นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 60 ว่า บริษัทมีแผนงานที่จะส่งผลให้การดำเนินงานดีมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรกทั้งด้านยอดขายและรายได้ หลังจากครึ่งปีแรกบริษัททำยอดขายจากโครงการแนวราบได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย แต่ยอดขายคอนโดมิเนียมจะต่ำกว่าเป้า ขณะที่แผนงานร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งในประเทศ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ คาดว่าจะสรุปผลได้ในไตรมาส 3/60 และไตรมาส 4/60
บริษัทมีแผนรุกตลาดคอนโดอย่างเข้มข้น เพื่อเพิ่มยอดขายในครึ่งปีหลัง ทั้งจากโครงการ “เมโทรสกาย บางซื่อ-ประชาชื่น" ที่ได้รับผลบวกจากการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสถานีเตาปูนและสถานีบางซื่อ ทำให้สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังย่านจตุจักรและพหลโยธิน ซึ่งเป็นแหล่งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และอยู่ห่างจากโครงการเพียง 4 สถานีรถไฟฟ้า มั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันได้ด้วยราคาที่จูงใจ ในราคาต่อตารางเมตรไม่ถึงแสนบาท
นอกจากนี้ ยังมี“ไอคอนโด ศาลายา"ที่จะได้รับผลจากแผนพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา ให้เป็นโรงพยาบาลศิริราชแห่งที่ 2 ซึ่งจะทำให้ทำเลศาลายาคึกคักขึ้น เป็นทั้งแหล่งการศึกษา การลงทุน การรักษาพยาบาล ของคนในทำเลตะวันตกของกรุงเทพ
พร้อมกันนี้ จะมีการเปิดตัว“เมโทรลักซ์ พหล-สุทธิสาร(2)" ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องเป็นโครงการที่สองในทำเลดังกล่าว
นายชายนิด กล่าวว่า โครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทในกลุ่มยังได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างประเทศ โดยในเดือน มิ.ย.60 มียอดขายจากต่างชาติเข้ามาในโครงการ“เมโทรลักซ์ เอกมัย-พระราม 4" แล้วกว่า 200 ล้านบาท และยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าครึ่งปีหลังจะมียอดขายจากลูกค้าต่างประเทศมาเสริมใน 5 โครงการของบริษัท ทั้งทำเล เอกมัย-พระราม 4, บางซื่อ-ประชาชื่น, พหล-สุทธิสาร, สุขุมวิท, รัชดา และจะทำยอดขายจากต่างประเทศได้อีก 1,000 ล้านบาท
ในส่วนของบ มจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) คาดว่าจะมียอดขายจากต่างประเทศเข้ามาเช่นกันอีก 300 ล้านบาท ทำให้มียอดขายคอนโดมิเนียมที่มาจากลูกค้าต่างชาติทั้งกลุ่มรวม 1,500 ล้านบาท
นายชายนิด กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ มูลค่า 4,742 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 1,070 ล้านบาท ครึ่งปีหลังยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 8 โครงการ มูลค่า 14,178 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 6,868 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 4 โครงการ มูลค่า 7,310 ล้านบาท
สำหรับโครงการแนวราบครึ่งปีหลังจะมีการเปิดทำเลใหม่ คือ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่ของบริษัท โดยจะเปิดตัวพร้อมกัน 3 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยวระดับบน “เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ", บ้านเดี่ยวระดับกลาง “เพอร์เฟค เพลส" และทาวน์โฮม “เดอะ เมทโทร" อีกทั้งยังมีแบบบ้านใหม่ออกมาครบในทุกแบรนด์ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่มีแบบบ้านใหม่ในระดับบนราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยยังคงมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้ง SCG และ AIS เพื่อนำไปใช้กับแบบบ้านใหม่ที่จะเปิดตัว เพื่อให้เป็นบ้านนวัตกรรมที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความสะดวกสบายและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น
ในส่วนของรายได้นั้น ครึ่งปีหลังบริษัทจะมีรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเข้ามาอย่างเป็นสาระสำคัญ โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวม 2,500 ล้านบาท จากโครงการ เมโทร สกาย บางซื่อ-ประชาชื่น, เมโทรลักซ์ รัชดา และ เมโทรลักซ์ เอกมัย-พระราม 4
ขณะที่รายได้จากบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ GRAND ในส่วนของธุรกิจโรงแรม มีการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา มูลค่า 1,700 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/60 ส่วนคอนโดมิเนียมก็จะมีการบันทึกรายได้จากโครงการ เดอะ ไฮด์ สุขุมวิท 11 ที่ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทั้งหมด และยังมีโครงการ เดอะ ไฮด์ สุขุมวิท 13 ที่มียอดรอรับรู้รายได้อีก 400 ล้านบาท คาดว่าจะปิดโครงการได้ภายในปีนี้เช่นกัน
บริษัทยังจะมีรายได้อีกจำนวน 1,500 ล้านบาทจากการขายที่ดินบริเวณร่มเกล้าและลาดพร้าวรวม 1,200 ล้านบาท คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ภายในไตรมาส 3/60 และจะมีการขายหุ้นศูนย์การค้า“ดารา ฮาเบอร์"ศรีราชา มูลค่า 300 ล้านบาท ให้กับกลุ่มเซ็นทรัล จากรายได้ที่เข้ามาในหลายๆ ทางจะส่งผลให้หนี้สินของบริษัทลดลงอย่างรวดเร็ว คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทละลดลงเหลือ 1.6 เท่าในครึ่งปีหลัง