บลจ.แอสเซท พลัส ระบุโอกาสรับผลตอบแทนกอง ASP-DPLUS ดีกว่าเงินฝากดันยอดโตกว่า 4 เท่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 3, 2017 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. แอสเซท พลัส เปิดเผยว่า แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงมองว่าแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปในระยะนี้เพื่อหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในประเทศ ทำให้เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์จะทรงตัวต่อเนื่องเช่นกัน แต่ยังต้องติดตามนโยบายการเงินและการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งของเฟดในช่วงปลายปีต่อไปว่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มากน้อยเพียงใด

ดังนั้น ในสภาวะดอกเบี้ยต่ำเช่นปัจจุบัน กองทุนเปิดแอสเซทพลัส ตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ASP-DPLUS) จึงยังเป็นทางเลือกที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเนื่องจากเน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งในต่างประเทศและในประเทศที่มีอายุเฉลี่ยของตราสารประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งให้โอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าเงินฝากหรือตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุตราสารใกล้เคียงกัน ทั้งยังป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และมีสภาพคล่องสูงสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ

“กองทุนเปิด ASP-DPLUS ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน AI เป็นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เสนอขายครั้งแรกในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันกองทุนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องขึ้นกว่า 4 เท่า โดยปัจจุบันขนาดกองทุนอยู่ที่ประมาณ 5,495ล้านบาท"นายรัชต์ กล่าว

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีจุดเด่นที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ อายุเฉลี่ยของตราสารประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนในตลาดตราสารหนี้และสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้ทั้งในสภาวะดอกเบี้ยทรงตัวและในแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้กองทุนยังคงมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.54% และผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 0.68% (ข้อมูล ณ 31 พฤษภาคม 2560) ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับกองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ เดลี่ พลัส เพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย (ASP-DPLUS) เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้สำหรับผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก โดยสามารถลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ79 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ระดับความเสี่ยงในการลงทุน 4.5 มีนโยบายป้องกัน ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน สภาพคล่องสูงสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ