นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) กล่าวว่า หลังจากปิดงบการเงินในไตรมาส 2/60 ไปแล้วบริษัทมีแผนจะทบทวนเป้าหมายรายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 30% เนื่องจากบริษัทสามารถขายผลผลิตน้ำตาลล่วงหน้าได้ทั้ง 100% แล้ว ซึ่งมีกำหนดทยอยส่งมอบไปจนถึงช่วงฤดูปิดหีบ โดยมีราคาขายที่ 22 เซนต์/ปอนด์ ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 16 เซนต์/ปอนด์
สำหรับเป้าหมายปริมาณการหีบอ้อยในฤดูการผลิตปี 60/61 บริษัทคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3 ล้านตัน และได้ผลผลิตน้ำตาลราว 3.45 แสนตัน สูงขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.8 ล้านตัน เป็นผลมาจากการที่บริษัทได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานในช่วงที่ผ่านมา และมีปริมาณอ้อยเข้าหีบเพิ่มขึ้น
"ปีนี้ (ฤดูการผลิต 59/60) เราน่าจะได้ผลผลิตน้ำตาล 251,696 ตัน แบ่งเป็นขายในประเทศ 65,000 ตัน ที่เหลือจะเป็นการส่งออก โดยปัจจุบันราคาน้ำตาลลงมาอยู่ที่ 16 เซนต์/ปอนด์ แต่ก็ยังไม่ได้กระทบกับเป้าหมายผลประกอบการ เนื่องจากเราได้มีการขายล่วงหน้าไปทั้งหมดแล้ว และสำหรับฤดูกาลหีบอ้อยครั้งถัดไปบริษัทได้ทำการขายล่วงหน้าไปแล้วราว 20% ซึ่งในช่วงนี้บริษัทจะยังไม่มีการขายเพิ่ม แต่จะรอช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมก่อนที่จะขายเพิ่ม"นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทจะได้เงินจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) ราว 3.6 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำไปลงทุนใน 2 โครงการใหญ่ คือ โครงการผลิตเอทานอล มูลค่าราว 1 พันล้านบาท กำลังการผลิตราว 1.5 แสนลิตร/ปี และโครงการน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กำลังการผลิต 1,000-1,200 ตัน/วัน มูลค่าลงทุนราว 1.5 พันล้านบาท
"ตอนนี้เราอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ว่า 2 โครงการนี้จะเริ่มโครงการไหนก่อน เพราะปัจจุบันฝั่งยุโรปได้เข้ามาแข่งขันในกลุ่มน้ำตาลแปรรูปมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเราก็จะมีการลงทุนทั้ง 2 โครงการนั้น ซึ่งการลงทุนใน 2 โครงการนี้จะช่วยให้บริษัทมีการเติบโตอีกมาก เพราะการลงทุนใหม่ได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนเพราะไม่ต้องกู้จากสถาบันทางการเงิน แต่จะใช้เงินจาการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนมาลงทุนแทน"นายอนันต์ กล่าว
ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งที่ 4 ปัจจุบันบริษัทฯมีวัตถุดิบมากเพียงพอสำหรับการลงทุน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทต้องรอดูความเหมาะสม และแผนต่างๆก่อนว่าจะมีการลงทุนเพิ่มเติมเมื่อได
อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมจะยื่นประมูลเข้าร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนแบบผสมผสาน (Hybrid) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก VSPP ซึ่งคาดว่าหน่วยงานภาครัฐจะเปิดให้ประมูลได้ราวไตรมาส 3/60 โดยบริษัทจะนำโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 3 ขนาด 9.99 เมกะวัตต์เข้ายื่นประมูลขายไฟฟ้าเข้าระบบ จากปัจจุบันเป็นการผลิตเพื่อที่จะใช้ในกลุ่มของบริษัทเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหากได้ใบอนุญาตขายไฟฟ้าแล้ว บริษัทอาจจะพิจารณาขายสินทรัพย์เข้ากองทุน BRRGIF เพิ่มเติมเพื่อหาเงินลงทุนมาใช้ในการขยายกิจการด้านอื่นๆ