โบรกเกอร์ เชียร์"ซื้อ" บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) จากแนวโน้มตัวเลขนักท่องเที่ยวในปีนี้จะเติบโตได้ 6% และเป็นการเติบโตต่อเนื่องหลังเศรษฐกิจสหรัฐ และสหภาพยุโรปขยายตัวได้ดี หนุนกำไรหลักของ ERW ในปีนี้ที่คาดจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่เติบโตได้ 30% จากปีก่อนตามที่คาดการณ์ ซึ่งบริษัทฯมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่า SET และมีผลประกอบการเหนือกว่ากลุ่มโรงแรม
โดยในไตรมาส 2/60 คาดกำไรเติบโต 14% เทียบกับกลุ่มที่เติบโตเพียง 10% เนื่องจากการเติบโตของ RevPAR สูงกว่าทั้งกลุ่มจากการกลับมาฟื้นตัวตามตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีน ในขณะเดียวกันมองว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งมีฐานที่ต่ำในไตรมาส 4/59
นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการเปิดโรงแรมราคาประหยัดในประเทศไทยในปี 60 บริษัทฯมีการวางแผนที่จะเปิดโรงแรม Hop Inn แห่งที่สองในเมืองมะนิลา ย่านธุรกิจของกรุงมะนิลาในไตรมาส 3/60 นอกจากนี้ยังมีการสำรวจจังหวัดเคซอน เซบูและดาเวา ในขณะเดียวกันยังมองเห็นศักยภาพที่ดีสำหรับ Hop Inn ในเวียดนาม ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นที่นิยมมาก มีนักท่องเที่ยวถึง 10 ล้านคนในปี 60 เพิ่มขึ้น 126% จากปีก่อน
ราคาหุ้น ERW อยู่ที่ 5.50 บาท บวก 0.25 บาท (+4.76%) เมื่อเวลา 15.37 น.สอดคล้องทิศทาง SET บวก 2.25 จุด
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 6.00 เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 6.50 ดีบีเอสฯ ซื้อ 5.80
นักวิเคราะห์จาก บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/60น่าจะออกมาดี แม้จะเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season)ของธุรกิจ แต่ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่นที่เติบโตมากกว่าปีก่อน โดยคาดว่า RevPAR จะเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก
ทั้งนี้ คงเป้าหมายการเติบโตของตัวเลขนักท่องเที่ยวในปีนี้ที่ 6% โดย 5 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตอยู่ 4.6% ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นสิ่งที่สนับสนุนการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
"เรายังคงมีมุมมองที่ดีต่อ ERW หลังจากตัวเลขนักท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่กลับมาเติบโตได้ 3% ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่ง ERW เป็นผู้ประกอบการที่มีธุรกิจโรงแรมอย่างเดียวจะได้รับประโยชน์เต็มๆกับการเติบโตของตัวเลขนักท่องเที่ยว"นักวิเคราะห์จาก ฟินันเซีย กล่าว
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรหลักของ ERW จะเติบโตได้ 30% จากปีก่อนตามที่คาดการณ์ ซึ่งบริษัทฯมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่า SET และมีผลประกอบการเหนือกว่ากลุ่มโรงแรม โดยในช่วงไตรมาส 2/60 เติบโต 14% เทียบกับกลุ่มที่เติบโตเพียง 10% เนื่องจากการเติบโตของ RevPAR สูงกว่าทั้งกลุ่มจากการกลับมาฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน ในขณะเดียวกันมองว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะแข็งแกร่งจากการ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งมีฐานที่ต่ำในไตรมาส 4/59
ทั้งนี้การเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 12% และ 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในเดือน มิ.ย.60 ขณะที่ไตรมาส 2/60 เติบโต 9% และ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดจองห้องพักล่วงหน้าสำหรับไตรมาส 3/60 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาห้องพักโดยเฉลี่ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเข้าพัก
ในขณะเดียวกันจากที่มีการขยายธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดในประเทศไทยในปี 60 บริษัทฯมีการวางแผนที่จะเปิดโรงแรม Hop Inn แห่งที่สองในเมืองมะนิลา ย่านธุรกิจของกรุงมะนิลาในไตรมาส 3/60 นอกจากนี้ยังมีการสำรวจจังหวัดเคซอน เซบูและดาเวา นอกเหนือจากฟิลิปปินส์แล้ว ยังมองเห็นศักยภาพที่ดีสำหรับ Hop Inn ในเวียดนาม ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นที่นิยมมาก มีนักท่องเที่ยวถึง 10 ล้านคนในปี 60 เพิ่มขึ้น 126% จากปีก่อน เราคิดว่าข้อเสนอ Hop Inn (600-1200 บาท / ห้อง / คืน) น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาสิ่งที่คุ้มค่ากับเงิน
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า แนวโน้มกำไรของ ERW จะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า RevPar จะเติบโตได้ 7% ในปีนี้ ซึ่งมาจากอัตราค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น และจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นจากโรงแรม Hop Inn 8 แห่งในไทยและโรงแรมในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกันรายได้อาหารและเครื่องดื่มเติบโตดี รวมทั้งมาร์จิ้นสูงขึ้น
คาดการณ์กำไรปี 60 ขยายตัว 15% y-o-y จากที่เติบโต 88% y-o-y ในปี 59 และปี 61 โตต่อเนื่องได้อีก 14% y-o-y นับว่ายังเป็นการขยายตัวที่ดีมาก