โบรกเกอร์ต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.ทุนธนชาต (TCAP) จากแนวโน้มกลับมาการขยายตัวของสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลัง จากครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะติดลบ โดยเป็นผลมาจากแผนงานรุกตลาดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองที่ได้ผลตอบรับที่ดี และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีแนวโน้มที่เติบโต ตามการเติบโตของยอขายรถยนต์ที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น
ส่วนในแง่ของคุณภาพสินทรัพย์ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้ธนาคารไม่ต้องตั้งสำรองฯที่สูง ซึ่งส่งผลช่วยหนุนกำไรของบริษัท อีกทั้ง TCAP ยังมีความน่าสนใจของราคาหุ้นที่ยังถูกอยู่ และการอัพไซด์ขออราคาหุ้นยังไม่สะท้อนการเติบโตของกำไร ทำให้ยังมองว่ามีความน่าสนใจในการลงทุน
ราคาหุ้น TCAP อยู่ที่ 46.00 บาท บวก 0.25 บาท (+0.55%)เมื่อเวลา 16.03 น.สวนทางดัชนี SET ที่ปรับลง 6.24 จุด (-0.41%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ทรีนีตี้ ซื้อ 55.00 เอเชีย เวลท์ ซื้อ 55.00 บัวหลวง ซื้อ 55.00 เอเซีย พลัส ซื้อ 53.00 กสิกรไทย ซื้อ 51.00 ทิสโก้ ซื้อ 50.00 ไทยพาณิชย์ ซื้อ 50.00
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำ "ซื้อ" TCAP ราคาเป้าหมาย 55 บาท/หุ้น โดยแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาจากการรายงานในธ.พ.1.1 ที่เติบโต 0.14% จากเดือนมิ.ย. 60 ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยคาดว่าจะมาจากการรุกตลาดสินเชื่อรถยนต์มือสองมากขึ้น และสินเชื่อรถยนต์ใหม่อาจจะค่อยๆเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตามอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าสินเชื่อรวมในครึ่งปีแรกยังคงหดตัว และจะกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จากรถยนต์ที่ฟื้นตัวและภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยยังคาดว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อของ TCAP ทั้งปีจะเติบโตได้ตามที่ตั้งเป้าไว้โต 3-5% และยังคงประมาณการกำไรของ TCAP ในปี 60 เติบโต 10.9%
"TCAP เป็นหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ยังมีความน่าสนใจ เพราะคุณภาพสินทรัพย์มีความแข็งแกร่ง มูลค่าหุ้นยังถือว่าถูกอยู่ และมีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ รวมไปถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของสินเชื่ออย่างค่อยเป็นค่อยไป และ NPL มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายวรุตม์ กล่าว
นายสุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง แนะนำ "ซื้อ" TCAP ราคาเป้าหมาย 55 บาท/หุ้น ซึ่งยังมองว่าหุ้น TCAP เป็นหุ้นที่ราคาถูกและราคายังไม่สะท้อนการอัพไซด์ของผลการดำเนินที่ค่อยๆปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งในแง่ของคุณภาพสินทรัพย์ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้การตั้งสำรองฯลดลงต่ำกว่าประมาณการทั้งปีที่คาดว่าตั้งสำรองฯอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท ซึ่งทางธนาคารธนชาต (TBANK) ได้ตั้งเป้าหมายการตั้งสำรองฯในปีนี้ไว้ที่ 5.5 พันล้านบาท ซึ่งส่งผลช่วยหนุนกำไรให้เติบโตขึ้นได้
ส่วนแนวโน้มสินเชื่อรวมในช่วงไตรมาส 2/60 และในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะเห็นการเติบโตของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่มีทิศทางการเติบโตตามยอดขายรถยนต์ที่คาดว่าจะขายตัวได้ 4% จากปีก่อน หรือมียอดขายรถยนต์อยู่ที่ 800,000 คัน ในปี 60 อีกทั้งบริษัทยังรุกขยายฐานสินเชื่อรถยนต์มือสอง ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีและเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนการเติบโตของสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งยังคาดว่าสินเชื่อรวมของ TCAP ในปีนี้ยังเติบโตได้ตามประมาณการณ์ที่เติบโต 3%
นักวิเคราะห์บล.ทรีนีตี้ แนะนำ "ซื้อ" TCAP ราคาเป้าหมาย 55 บาท/หุ้น โดยคาดว่าแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มขยายตัวได้มากกว่าครึ่งปีแรก จากแผนงานรุกตลาดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลังการตั้งสำรองฯจะยังไม่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้า หลังจากคุณภาพหนี้ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือหนึ่งและมือสองมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 คาดว่ากำไรของ TCAP จะเติบโตได้ 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตได้ 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/60 เพราะสินเชื่อในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะเติบโตได้ 1.5% จากไตรมาส 1/60 จากแผนรุกตลาดและการกลับมาปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนที่ดี หนุนรายได้ดอกเบี้ยให้เติบโตขึ้น โดยทั้งปี 60 ยังคงประมาณการณ์กำไรของ TCAP อยู่ที่ 6.66 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นบากจากปีก่อนที่ 6 พันล้านบาท ซึ่งยังคงประมาณการณ์แดิมไว้