นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลง เนื่องจากเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลังจากปิดต่ำกว่าระดับ 1,570 จุด และยังมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ออกมาระบุว่า จะปรับนโยบายเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ทั่วโลกต่างปรับตัวขึ้นกันในขณะนี้ โดยเฉพาะ Bond Yield อายุ 10 ปีของเยอรมัน ได้ปรับขึ้นทะลุระดับ 0.5% เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีครึ่ง และ Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯก็ปรับขึ้นต่อเนื่อง จนขณะนี้อยู่ที่ 2.38% ซึ่งตรงนี้จะไปกดดันหุ้นทั่วโลก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า ติดลบราว 0.2-0.3% และบ้านเราก็จะปิดทำการต่อเนื่อง 3 วันด้วย ขณะที่ตลาดฯยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน
พร้อมให้ติดตามการประชุม G20 ที่จะเริ่มมีขึ้นในวันนี้ โดยให้ติดตามจะมีการกล่าวถึงสถานการณ์ในเกาหลีเหนือหรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,572-1,574 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,320.04 จุด ร่วงลง 158.13 จุด (-0.74%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,089.46 จุด ลดลง 61.39 จุด (-1.00%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,409.75 จุด ลดลง 22.79 จุด (-0.94%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 137.41 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.62 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 88.01 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 24.90 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 11.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.92 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.46 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 0.62 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ก.ค.60) 1,569.64 จุด ลดลง 5.38 จุด (-0.34%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,623.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 ก.ค.60) ปิดที่ 45.52 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ก.ค.60) ที่ 7.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.06 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ
- ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน มีมติเห็นชอบแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ส.ค. 2560 โดยให้ยกเลิกการกำหนดราคาโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน และโรงอะโรเมติกส์ รวมถึงยกเลิกการกำหนดอัตราเงินส่งเข้า หรือชดเชยจากกองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิงจากทุกส่วนของการผลิต และยกเลิกการประกาศราคาขายส่ง ณ คลังก๊าซ เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบ
- บอร์ดอีอีซีเคาะ 4 โปรเจคโครงสร้างพื้นฐาน เข้าช่องทาง"อีอีซีฟาสต์แทร็ค" เริ่มลงทุนใน 10 เดือน ไฟเขียวเชื่อม 3 ท่าเรือภาคตะวันออกด้วย รถไฟทางคู่ มูลค่าโครงการเอกชนลงทุนรวมกว่า 7 แสนล้าน ลั่นดึงบริษัทใหญ่ 30 รายลงทุนใน 5 ปีสร้างเม็ดเงินกว่า 5 แสนล้านบาท "อภิศักดิ์"ย้ำหลักการไม่ใช้งบประมาณรัฐ-ให้เอกชนรับความเสี่ยง สคร.วางเกณฑ์พีพีพี สร้างความโปร่งใส
- สศค.กำลังพิจารณาปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2560 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งไว้ 3.6% หลังจากมีปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกที่ขยายตัวสูง โดย 5 เดือนแรกของปี 2560 ขยายตัวถึง 7.2%
- การเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) กองทุนโครงสร้าง พื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ฟันด์) มูลค่าราว 4.5-5 หมื่นล้านบาท โดยมีสินทรัพย์ที่จะนำมาตั้งกองทุนคือ โครงการทางพิเศษฉลองรัชกับทางพิเศษบูรพาวิถี จะช้ากว่ากำหนดแผนการเดิมของกระทรวงการคลังที่วางในช่วงปลายปีนี้โดยจะเลื่อนไปเป็นช่วงต้นปี 2561 แทน
- คลังลุ้นเบิกจ่ายงบกลางปีช่วยดัน ศก.โตถึง 4% เอกชนพาเหรดปรับเพิ่มหลัง กนง.นำร่องไปแล้ว แต่ยังห่วงผลกระทบจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และปัจจัยภายนอก ศูนย์วิจัยกสิกรคาดเอ็นพีแอลพุ่งสูงสุดไตรมาส 3 ปีนี้
- นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.60 ดัชนีปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 5 เดือนนับจากเดือน ก.พ.60
*หุ้นเด่นวันนี้
- KKP (ธนชาต) "ซื้อ" แม้มีประเด็นลบจากการเลื่อนขาย Thailand Future Fund มูลค่า 4.5-5 หมื่นล้าน ไปเป็นต้นปีหน้ากระทบรายได้ FA อย่างไรก็ดี มองว่า KKP จะเป็นธนาคารที่ประกาศกำไร 2Q60 เติบโตดี จาก 1) ไม่มีปัญหา NPL 2) ต้นทุนการเงินต่ำ 3) ยังชอบปันผลสูง 8.5% ต่อปี
- MONO (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 3.9 บาท พรีวิวงบ 2Q60 คาดกำไร 54 ล้านบาท (+134% QoQ, +314% YoY) ผลจากธุรกิจทีวีดิจิตอล (MONO 29) อัตราค่าโฆษณา + Utilization rate ที่เพิ่มขึ้น พร้อมประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 3.5 – 3.92 บาท โดยมีแนวรับแรกเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 3.7 บาท (Stop loss 3.5 บาท) หากผ่านกรอบแนวต้าน 3.92 บาทไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 4.1 บาท
- ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 16 บาท คาดกำไร 2Q60 สดใส +16% Q-Q, +173% Y-Y เป็น 200 ล้านบาทแม้จะมีค่าการตลาดมาก แต่ก็มีหลายโครงการที่โอนในไตรมาสนี้คือไนท์บริดจ์สกายซิตี้สะพานใหม่ พอสสุขุมวิท 103 และน้อตติ้งฮิลล์เจริญกรุง กลบรายจ่ายได้ และรายได้ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นตลอดปี โดยเฉพาะ 4Q60 ที่จะเริ่มรับรู้รายได้จาก Park 24 ที่ซื้อจากพราวเรสซิเด้นส์ ส่วน Backlog ปัจจุบันเพิ่มเป็น 1.7 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ราคาหุ้นผ่านการพักฐานแล้วจนมี PE 13.7 เท่าปีนี้และจะลดเหลือ 9 เท่าปีหน้า ขณะที่ EPS growth คาดว่าทำได้ถึง 77% และ 52% ในปี 2560-2561