หุ้น APX ราคาพุ่งขึ้น 6.82% มาอยู่ที่ 0.47 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 21.30 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.41 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.46 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.49 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.46 บาท
บมจ.เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (APX) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 1,499,925,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,999,850,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,499,925,000 บาท ด้วยการลดมูลค่าหุ้นของบริษัทที่ตราไว้จากมูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท เพื่อนำส่วนที่ได้จากการลดทุนทั้งหมดไปหักกลบส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น และล้างขาดทุนสะสมของบริษัทตามลำดับ ซึ่งจะเป็นผลให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทลดลงจาก 2,999,850,000 บาท เป็น 1,499,925,000 บาท ในจำนวนหุ้นคงเดิม 2,999,850,000 หุ้น และให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาต่อไป
พร้อมมีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 749,962,500 บาท ภายหลังจากที่บริษัทจดทะเบียนลดทุนเป็น 1,499,925,000 หุ้น โดยเพิ่มทุนเป็น 2,249,887,500 บาท
โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 1,499,925,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม(RO) จำนวน 999,950,000 หุ้น ราคาจองซื้อหุ้นละ 0.50 บาท ในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่
และเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ์ (APX-1) 499,975,000 หุ้น โดยจะจัดสรรในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า ใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุ 3 ปี อัตราส่วนการใช้สิทธิ์ 1 ต่อ 1 กำหนดราคาใช้สิทธิหุ้นละ 1 บาท กำหนดใช้สิทธิ ณ วันทำการสุดท้ายของเดือนมิ.ย. และเดือน ธ.ค.ของทุกปี
คณะกรรมการฯ มีมติกำหนดวันรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 21 ก.ค.60 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นของบริษัท ในวันที่ 24 ก.ค.60 เวลา 12.00 น. เพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับจัดสรรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนพร้อมใบสำคัญแสดงสิทธิ APX-1 และกำหนดให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 ในวันที่ 11 ส.ค.60 และกำหนดวันรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 21 ก.ค.60 (Record date) และกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นของบริษัท ในวันที่ 24 ก.ค.60 เวลา 12.00 น.
การเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินในการขยายโครงการของบริษัท และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มภาระในการกู้เงินของบริษัท ส่วนผู้ถือหุ้นจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มทุน จากการจ่ายเงินปันผลที่มีนโยบายเงินปันผลไม่เกินร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ แต่ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการจ่ายเงินปันผลก็ต่อเมื่อบริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด