ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,567.85 จุด ลดลง 1.79 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 15,992.87 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,570.60 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,566.58 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผุ้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลดลงเล็กน้อย และมูลค่าการซื้อขายเบาบางในช่วงเช้า เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยมาจากความเสี่ยงของการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน (EPS) จากนักวิเคราะห์ หลังจากกำไรของกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์เป็นตัวฉุดกำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งตลาดให้ลดลง
ขณะเดียวกันยังเห็นสัญญาณของแรงขายออกมาจากนักลงทุนต่างชาติ เพราะยังไม่เห็นปัจจัยที่ส่งสัญญาณว่าดัชนีจะมีทิศทางการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน ประกอบกับค่าเงินบาทที่มีการอ่อนค่าลงบ้าง ทำให้มีเกิดแรงขายออกมา อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงส่งผลกดดันหุ้นพลังงาน ซึ่งภาพรวมของตลาดหุ้นในช่วงนี้ยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายณัฐชาต คาดว่า ดัชนียังมีการแกว่งตัวในกรอบแคบ และยังไม่มีปัจจัยที่จะส่งสัญญาณต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยได้อย่างชัดเจน ส่วนปัจจัยที่ยังต้องติดตาม ได้แก่ การเข้าซื้อพันธบัตรญี่ปุ่นอายุ 5-10 ปี โดยไม่จำกัดจำนวนของธนาคารญี่ปุ่น เพื่อสกัดการปรับเพิ่มขึ้นของพันธบัตรระยะยาว และการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาคืนนี้
พร้อมให้แนวต้าน 1,575 จุด แนวรับ 1,560 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,838.08 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,276.84 ล้านบาท ปิดที่ 15.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 636.63 ล้านบาท ปิดที่ 24.60 บาท ลดลง 0.30 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 545.61 ล้านบาท ปิดที่ 370.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 542.67 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท ลดลง 0.50 บาท