นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานะสินทรัพย์ (due diligence) โรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) ขนาดกว่า 100 เมกะวัตต์ (MW) ที่ปัจจุบันเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายราว 10% ของกำลังผลิตทั้งหมด โดยปัจจุบันมีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือ 1,922 เมกะวัตต์ ซึ่งจะ COD ได้ครบทั้งหมดในปี 62
"ตอนนี้เราทำ 2 เรื่อง คือ renewable และการทำ energy stroage ให้สำเร็จ แต่เราก็ยังเก็บ spare ถ้ามีใครเอาโรงไฟฟ้า SPP มาเสนอขายตอนนี้มีบางคนทำแล้วไม่สำเร็จก็มาคุยกับเราเหมือนกัน ขนาดประมาณ 100 กว่าเมกะวัตต์ เดินเครื่องมาพอสมควรแล้ว เขาทำเองทั้งหมด แต่ไม่ได้อยู่ในนิคมฯ ลูกค้ามีน้อย การเจรจาต้อง win win ทั้งคู่ และเราต้องมาสร้าง value ให้ได้ เรากำลังทำ due diligence อยู่บอกไม่ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ แต่สิ่งนั้นไม่ใช่หลักของเรา หลักของเราวันนี้ต้องทำ energy stroage ให้สำเร็จ และ renewable ให้ก้าวหน้ามากกว่านี้"นายเติมชัย กล่าว
นายเติมชัย กล่าวว่า สำหรับพอร์ตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ปัจจุบันบริษัทมีอยู่ในมือราว 65 เมกะวัตต์ ซึ่งนับว่ายังเล็กมาก โดยมาจากการร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) กับบมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนราว 40 เมกะวัตต์ ,โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ ในจ.จันทบุรี ขนาด 5 เมกะวัตต์ และโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น อีกราว 20 เมกะวัตต์ ในอนาคตอาจจะมีโครงการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น โครงการที่ 2 อีก 15 เมกะวัตต์ด้วย
นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาสถานีบริการน้ำมันในกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) และบนหลังคาโรงงานของกลุ่มบริษัทในเครือปตท.ในจังหวัดระยองเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง พร้อมกับจะมีการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน (energy stroage system) ควบคู่กันไปด้วย โดยการดำเนินการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในสถานีบริการน้ำมัน น่าจะเห็นแห่งแรกได้ภายในปีนี้