นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า จากเหตุอุปกรณ์ ณ แหล่งก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ เอ-18) ชำรุด ทำให้ต้องหยุดการผลิตและจ่ายก๊าซธรรมชาติ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดผู้ผลิตสามารถเร่งการซ่อมแซมแล้วเสร็จ ทำให้สามารถจ่ายก๊าซฯ ตามปกติได้เร็วขึ้น 1 วัน เพื่อลดผลกระทบของทุกภาคส่วน
โดยผู้ผลิตฯ เริ่มจ่ายก๊าซฯเข้าสู่ระบบได้ตั้งแต่เวลา 03.42 น.ของวันที่ 11 ก.ค. 60 ซึ่งโรงไฟฟ้าจะนะสามารถรับก๊าซฯ ได้ตั้งแต่เวลา 08.21 น. และสถานีก๊าซธรรมชาติหลักจะนะ จ.สงขลา จะสามารถทยอยจัดส่งก๊าซเอ็นจีวีให้กับบริการในพื้นที่ได้ในช่วงบ่ายของวันนี้ ทำให้สถานการณ์ก๊าซเอ็นจีวีภาคใต้ตอนล่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ปตท.จัดส่งเชื้อเพลิงทดแทนช่วงแหล่งก๊าซเจดีเอ เอ-18 ปิดซ่อมแซมอุปกรณ์ฉุกเฉิน ประกอบด้วย น้ำมันดีเซลสำหรับทดแทนการผลิตของโรงไฟฟ้าจะนะด้วยรถขนส่งน้ำมัน รวม 13 ล้านลิตร และขนส่งน้ำมันเตาทางเรือรวม 3.6 ล้านลิตร เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสนับสนุนพื้นที่ภาคใต้ โดยมีปริมาณเชื้อเพลิงสำรองเพียงพอตลอดช่วงการหยุดผลิตของผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติ ในส่วนของก๊าซธรรมชาติที่จ่ายไปยังภาคตะวันออกนั้น ปตท.ได้เรียกรับก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอื่นเข้ามาเสริม และไม่เกิดผลกระทบใดๆ ต่อภาคไฟฟ้า และภาคอุตสาหกรรม
"ปตท.ขอขอบคุณผู้ใช้พลังงานทุกท่าน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาคไฟฟ้าและผู้ใช้รถเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความเข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี"นายนพดล กล่าว