(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ รอดูประธานเฟดแถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 12, 2017 09:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,565-1,575 จุด เคลื่อนไหวคล้ายกับเมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดโดยรวมต่างรอดูประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันพุธนี้ โดยดูว่าจะมีการส่งสัญญาณอะไรกับนโยบายของสหรัฐฯ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในลักษณะทรงตัวราว 0.1-0.2% โดยตลาดต่างประเทศมีโอกาสที่จะผันผวนได้ ภายหลังจากที่ลูกชายคนโตของ"ทรัมป์"ได้ออกมาเผยแพร่อีเมลที่ชี้ให้เห็นถึงการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งสหรัฐฯที่ผ่านมา ซึ่งตรงนี้ทำให้นโยบายของ"ทรัมป์"เริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น

สำหรับการประกาศผลประกอบการของ TISCO งวดไตรมาส 2/60 ออกมาแล้วก็ปรากฏว่าดีกว่าตลาดคาดราว 5% ซึ่งก็น่าจะช่วยหนุนให้เกิดการเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัวได้

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,409.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด (+0.00%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,193.30 จุด เพิ่มขึ้น 16.91 จุด (+0.27%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,425.53 จุด ลดลง 1.90 จุด (-0.08%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 58.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 113.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.87 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.91 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.ค.60) 1,569.24 จุด ลดลง 0.20 จุด (-0.01%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 73.36 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ก.ค.60) ปิดที่ 45.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ก.ค.60) ที่ 7.08 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.02 กลับมาแข็งค่าหลังมีแรงขายดอลล์ ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้
  • ครม.ไฟเขียวโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน มูลค่า 1.79 แสนล้าน สั่งคลัง-สำนักงบฯ จัดหาแหล่ง เงินกู้ เปิดทางออกพันธบัตรระดมทุน คาดปี64 เปิดบริการค่าโดยสาร 535 บาท ถึงนครราชสีมา พ่วงแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้ รฟท.จัดตั้ง "เอสพีวี"ดำเนินการ ยก 3 เหตุผลผ่านโครงการ ระบุสร้างประโยชน์เชื่อมโยงภูมิเศรษฐศาสตร์ โยงเส้นทางสายไหมกว่า 5 หมื่นกิโลเมตร
  • นายกฯรับรายงานแบงก์ชาติ ออกเกณฑ์คุมสินเชื่อบุคคล-บัตรเครดิต วางเพดานคนมีเงินเดือนไม่เกิน 3 หมื่นบาทขอสินเชื่อ ไม่เกิน 1.5 เท่า เงินเดือน 5 หมื่นบาทขึ้นไปได้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 เท่าหวังสกัดหนี้ครัวเรือนพุ่ง หลังพบกลุ่มคนอายุ 30 ปี เป็นเอ็นพีแอลสูงมาก คาดเกณฑ์ใหม่มีผลบังคับไตรมาส 3 นี้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยต่างประเทศส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน เช่น นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก เป็นต้น
  • นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำบัญชีรวบรวมความต้องการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสรุปเสนอขออนุมัติงบประมาณนำไปสนับสนุนการผลิตใช้ในประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางให้มากขึ้น ซึ่งต้องแก้ปัญหายางตกต่ำภายในประเทศก่อน
  • จับตามติ กกพ. 12 ก.ค. เคาะค่าไฟงวดใหม่ ส.อ.ท.ชี้ตกหนักกับประชาชน เอกชนแนะคลังประสานแบงก์ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำลงทุนโซลาร์บนหลังคา

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPALL (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 72 บาท เราทำ NDR กับ CPALL ให้กับนักลงทุนที่ญี่ปุ่น แม้การบริโภคอ่อนแอใน 1H60 แต่กลยทธ์การขยายสาขา, เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น หนุนการเติบโตกำไร 20% ต่อปีช่วง 2 ปีข้างหน้า
  • UNIQ (ไอร่า) เป้า 25.70 บาท ครม. มีมติอนุมัติให้ รฟท. พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วง ที่ 1 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. มูลค่า 179,413 ล้านบาท คาดว่าลงนามสัญญาการออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธากับจีนในเดือนส.ค. นี้ พร้อมคาด UNIQ สามารถโตต่อเนื่องในปี 60 ภายใต้ Backlog ล่าสุด คาดอยู่ที่ระดับ 30,000 (หลังหักรายได้ 1Q/60) ซึ่งคาดเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 2 ปีข้างหน้า ขณะที่ UNIQ เป็น 1 ใน 4 ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ที่คาดได้รับประโยชน์จากงานก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่ทยอยเปิดประมูลต่อเนื่องหลังจากนี้ และคาด UNIQ มีโอกาสที่จะได้รับงานเพิ่ม ซึ่งคาดสามารถชดเชย Backlog เดิมที่ลดลงตามความคืบหน้างานก่อสร้าง
  • MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 43 บาท คาดกำไรปกติ 2Q60 +15% Y-Y จาก RevPar โรงแรมที่โตทุกภูมิภาค และธุรกิจอาหารทั้งไทยและจีนที่ทรงตัวได้ดี ส่วน 2H17 ยังสดใสเพราะเป็น High Season และโรงแรมในโปรตุเกสปรับปรุงเสร็จ คาดหนุนกำไรทั้งปี +23% Y-Y นอกจากนี้ NVDR ซื้อต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รวม 1.7 พันลบ. ล่าสุดที่ซื้อหนักคือ ก.ย. 15 ถึง มี.ค. 16 (รวม 7 เดือนซื้อไป 2.7 พันลบ.) ราคาหุ้นขึ้น 64% รอบนี้ขึ้นเพียง 18% และ MINT ยัง laggard กลุ่มท่องเที่ยว โดย 2 สัปดาห์นี้ +2% แต่กลุ่ม +7%
  • BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.90 บาท จัดงาน BIG PRO DAYS ระหว่าง 10-16 ก.ค. ครั้งนี้จัดเร็วกว่าทุกปี เพื่อกระตุ้นตลาดและตัดหน้าคู่แข่ง ซึ่งแม้จะไม่มีเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ แต่โปรโมชั่นที่แรงสุดในรอบปีน่าจะช่วยกระตุ้นยอดได้ โดยคาดกำไร 2Q60 +15-20% Y-Y และจะเร่งขึ้นใน 3Q60 ที่เป็น High Season

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ