หุ้น PACE ไหลลง 2.94% มาอยู่ที่ 2.64 บาท ลดลง 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 11.61 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.19 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.70 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.64 บาท
เช้านี้นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) นัดชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีที่ PACE ถูกธนาคารเจ้าหนี้จับตาสถานะทางการเงินที่อาจมีปัญหา เพราะไม่แน่ใจว่าจะกระทบกับความสามารถในการชำระคืนตั๋วแลกเงิน (B/E) หรือไม่
ขณะที่ บทวิเคราะห์ของ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) คาดว่าราคาหุ้น PACE ที่ปรับตัวลงมามากและต่อเนื่อง เป็นเพราะมีความกังวลในเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน จากการพิจารณาฐานะการเงิน ตามที่เราได้รายงานไปเมื่อ 6 มิ.ย.60 พบว่ายังตึง จากงบดุล ณ ปลาย Q1/60 มีหนี้เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี 15.3 พันล้านบาท แต่เป็นเงินเบิกเกินบัญชีและหุ้นกู้ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 4.5 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้
อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนได้ลดลงเหลือ 1.7 เท่า เทียบกับหนึ่งปีก่อนหน้าที่ 8.1 เท่า และมีเงินสด-รายการเทียบเท่าเงินสดเป็น 5.2 พันล้านบาท หลังจาก Apollo และ Goldman Sac ได้ใส่เงินเพิ่มทุนมายังบริษัทย่อยคือ เพซ โปรเจ็กต์วัน (PP1) และเพซ โปรเจ็กต์ทรี (PP3) ในสัดส่วนการถือหุ้นที่ 34.3% และ 14.7% ตามลำดับ ในรูปแบบหุ้นบุริมสิทธิ์ ได้เงินมา 7.8 พันล้านบาท และให้เงินกู้เพิ่ม 675 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 8.4 พันล้านบาท (แต่บริษัทก็ได้สัญญาจ่ายเงินปันผลให้กับทั้งสองรายเป็นจำนวนมาก ตกปีละ 2.1 พันล้านบาท และเป็นแบบสะสม)
ล่าสุด PACE ได้ชี้แจงว่าเพิ่งได้วงเงินกู้ใหม่จาก SCB มา 3 พันล้านบาท สามารถรองรับได้อีก 18 เดือนและเตรียมชำระ B/E และหุ้นกู้ ปัจจุบันคอนโดฯ มหานครคืนหนี้ไปแล้ว จาก 6 พันล้านบาท เหลือ 2 พันล้านบาท ส่วนดีนแอนด์เดลูก้า หนี้ 3 พันล้านบาท ได้ต่ออายุไป 1-2 ปี
คำแนะนำเพียง"ถือ"แม้ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงสอดคล้องกับคำแนะนำที่ได้ปรับลดจาก"ซื้อ"จนราคาปิดกลับมามีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐาน 16.7% แต่ยังต้องติดตามเรื่องการแก้ปัญหาสภาพคล่องด้านการเงินที่มีภาระคืนหนี้จำนวนมากในปีนี้ หากในอนาคตไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นก็อาจปรับลดคำแนะนำลงได้อีก
ทั้งนี้ ยังขึ้นกับการโอนคอนโดมหานคร ในส่วนที่เหลืออีก 6.7 พันล้านบาท และปลายปีโอนวิลล่า มหาสมุทรอีกประมาณ 1 พันล้านบาท ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ด้านผลการดำเนินงาน Q2/60 มีโอกาสจะเป็นขาดทุนได้อีก เพราะการโอนคอนโดมหานครเป็นรายได้อยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาทใกล้เคียงกับ Q1/60 ที่ 1.8 พันล้านบาท จากยอดขายรอโอน (Backlog) ของมหานคร ณ สิ้น Q1/60 ที่ 6.7 พันล้านบาท ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ยังสูงมากในไตรมาส 1/60 เป็น 51.3% ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการขยายร้านอาหาร-กาแฟ ดีน แอนด์ เดลูก้าต่อเนื่อง รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่มากถึง 171 ล้านบาท แต่บริษัทคาดว่าจะมีการโอนมหานครมากในครึ่งหลังปีนี้และดีนแอนด์ เดลูก้า ฟื้นตัวดีขึ้น จนครึ่งปีหลังกลับมามีกำไรได้