นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บ้านปู (BANPU) คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปี 60 จะดีกว่าระดับ 59 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว โดยไตรมาส 1/60 ทำได้แล้ว 79 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลจากธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้าที่ดีขึ้น ขณะที่ตั้งเป้ารายได้สกุลเหรียญสหรัฐในปีนี้จะเติบโตกว่า 20% จาก 2.26 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว จากราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในปีนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 20% จากปีที่แล้ว ส่วนเป้าปริมาณขายถ่านหินปีนี้อยู่ที่ 45 ล้านตัน ทรงตัวจากปีก่อน ซึ่งในครึ่งแรกปีนี้ทำได้แล้วราว 21 ล้านตัน
ทั้งนี้ ประเมินว่าราคาขายถ่ายหินเฉลี่ยของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ราว 63 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากระดับ 51.53 เหรียญสหรัฐ/ตันในปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งแรกปีนี้ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัทอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 65 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่ปรับตัวขึ้นเป็นผลจากปริมาณการผลิตและความต้องการใช้ตลาดที่เริ่มเข้าสู่สมดุล ซึ่งคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ราคาถ่านหินในตลาดน่าจะทรงตัวอยู่ที่ราว 83 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ขณะที่บริษัทวางเป้าหมายจะมีปริมาณถ่านหินสำรองในอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 15 ปี หรือราว 375 ล้านตันภายในปี 63 จากปัจจุบันที่มีปริมาณสำรองถ่านหินราว 11 ปี หรือเกือบ 300 ล้านตัน หลังมีแผนลงทุนที่จะขุดเหมืองถ่านหินให้ลึกขึ้น รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียเพิ่มเติม ซึ่งหวังว่าจะได้เห็นในปีนี้
สำหรับธุรกิจไฟฟ้าในปีนี้จะดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าหงสาในลาวที่สามารถใช้อัตราการผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีนที่เพิ่มเข้ามา