นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเดินทางไปให้ข้อมูลพื้นฐานธุรกิจแก่นักลงทุนสถาบันและบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำกว่า 10 กองทุนในลอนดอน, สต็อคโฮม, มิวนิค และแฟรงค์เฟิร์ต ระหว่างวันที่ 18-21 ก.ค.60 ร่วมกับ บลจ.ดอยซ์ทิสโก้ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาโดดเด่น และดีกว่าที่วางเป้าหมายไว้
ทั้งนี้ สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนใน MTLS อยู่ที่ 5.3% คาดว่าหลังการโรดโชว์ในครั้งนี้จะทำให้นักลงทุนให้ความสนใจและเพิ่มน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากธุรกิจมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
“ปัจจุบัน MTLS ถือเป็นเจ้าตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เบอร์หนึ่งของเมืองไทย หลังจากบริษัทฯเดินหน้าขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด ตามยุทธศาสตร์ขยายตัวทั่วไทย ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในระดับรากหญ้าซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท ส่งผลให้รายได้และกำไร เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง"นายชูชาติ กล่าว
นอกจากนี้ MTLS ยังเชื่อว่าจะได้รับประโยชน์จากกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมประกาศหลักเกณฑ์คุมเข้มสินเชื่อบัตรเครดิต และกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับบุคคลที่จะทำบัตรเครดิตต้องมีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท/เดือนขึ้นไป ทำให้มีลูกค้าที่ไม่ผ่านคุณสมบัติหันมาขอใช้บริการสินเชื่อของบริษัทฯมากขึ้น
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินของ MTLS รายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง (57-59) โดยปี 57 มีรายได้ 1,856.08 ล้านบาท ปี 58 เพิ่มเป็น 2,558.94 ล้านบาท และปี 59 ขยับมาเป็น 4,472.00 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในปี 57 อยู่ที่ 544.12 ล้านบาท ปี 58 อยู่ที่ 825.00 ล้านบาท และปี 59 อยู่ที่ 1,464.14 ล้านบาท
ล่าสุด ในไตรมาส 1/60 มีรายได้รวม 1,563.15 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 536.22 ล้านบาท
นายชูชาติ กล่าวอีกว่า บริษัทมั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้จะเติบโตกว่า 50% หรือแตะ 50,000 ล้านบาท ตามแผนงานที่วางไว้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 37,000 ล้านบาท ซึ่งจะผลักดันให้รายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยบริษัทพร้อมเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มอีก 200 แห่ง เน้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เพื่อขยายฐานลูกค้า จากปัจจุบันมี 2,000 สาขา ตามยุทธศาสตร์ขยายตัวทั่วไทย อีกทั้งยังวางเป้าหมายคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ไว้ไม่เกิน 1.50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.09%