นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ยอดขายรวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาทำได้ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 20% จากครึ่งแรกของปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 1.48 หมื่นล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นการผลักดันยอดขายจากการเปิดโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ มูลค่ากว่า 5.2 พันล้านบาท ซึ่งลูกค้าให้การการตอบรับที่ดี
อีกทั้งบริษัทยังได้ปิดการขายโครงการทั่งในกรุงเทพและต่างจังหวัดหลายโครงการ นอกจากนี้ยังได้ยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาสนับสนุนในครึ่งปีแรก 3.66 พันล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติในปีนี้ที่ 8 พันล้านบาท จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ยอดขายในครึ่งปีแรกเติบโตได้ 20% จากช่วงเดืยวกันของปีก่อน และยังมั่นใจว่ายอดขายรวมในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3.6 หมื่นล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ SIRI กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่อีก 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.92 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 2.23 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง 4 โครงการ มูลค่า 1.23 หมื่นล้านบาท และโครงการที่พัฒนาร่วมกับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) 3 โครงการ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท
ส่วนโครงการแนวราบจำนวน 4 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 1.61 หมื่นล้านบาท และโครงการทาวน์เฮาส์ มูลค่า 760 ล้านบาท ซึ่งการเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจะทำให้การเปิดโครงการใหม่ทั้งปี 60 เป็นไปตามแผนงานที่จะเปิด 19 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4.46 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังของปี บริษัทยังเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นเพื่อรักษาความเป็นผู้นำบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ลูกค้าต่างชาติไว้วางใจ ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยในช่วงครึ่งปีหลังวางเป้าหมายยอดขายลูกค้าต่างชาติ 4.33 พันล้านบาท พร้อมกับเตรียมเปิดสำนักงานขายในจีนเพิ่มอีก 3 เมือง คือ เซี่ยงไฮ้ เซิ่นเจิ้น และกวางโจว จากปัจจุบันมีสำนักงานขายอยู่ที่สิงคโปร์และปักกิ่ง เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าทั้งการขายและบริการหลังการขาย
ส่วนมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ในปัจจุบันอยู่ที่ 3.75 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท