หุ้น BANPU ราคาวิ่งขึ้น 2.53% มาอยู่ที่ 16.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 213.95 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.20 น. โดยเปิดตลาดที่ 15.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.20 บาท และราคาทำระดบต่ำสุดที่ 15.90 บาท
บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บ้านปู (BANPU) มีมุมมองเป็นบวกจากภาพรวมธุรกิจถ่านหินที่กลับเข้าสู่ภาวะสมดุล จากการฟื้นตัวของ Demand ในตลาด Pacific ,การคาดหมายผลประกอบการฟื้นตัวในไตรมาส 2/60 และปี 2560 ตามทิศทางของราคาถ่านหิน และราคาหุ้นซื้อขายอยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ราคาถ่านหินนับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 82.2 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากข้อจำกัดด้านอุปทาน ซึ่งมีเพียงอินโดนีเซียเท่านั้นที่ยังมีกำลังผลิตถ่านหินเพิ่ม ขณะที่ Demand ในตลาด Pacific มีการปรับเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าถ่านหินในเกาหลีใต้และไต้หวัน รวมไปถึงการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหินในจีน หลังประสบปัญหาอุทกภัย ทำให้จีนจำเป็นต้องลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อน เป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น
แม้ในช่วงที่ผ่านมาจีนจะออกนโยบายควบคุมประสิทธิภาพการผลิต รวมไปถึงการนำเข้าถ่านหิน แต่ปัจจัยดังกล่าวจะไม่กระทบยอดขายของ BANPU โดยปัจจุบัน BANPU มีการส่งออกถ่านหินไปขายในจีนปีละ 6 ล้านตัน คิดเป็น 13% ของยอดขายรวมในปี 2560
แม้ BANPU จะมีคดีฟ้องร้องโครงการหงสา ซึ่งเป็นเรื่องยากต่อการประเมินผลกระทบ แม้ก่อนหน้านี้จะใช้กรณีคำสั่งศาลชั้นต้นเป็นกรณีแย่สุดก็ตาม แต่หากไม่นับกรณีดังกล่าว BANPU ถือเป็นบริษัทที่มีความน่าสนใจในการลงทุนจาก (1) อุตสาหกรรมถ่านหินที่มีสัญญาณของการกลับสู่ภาวะสมดุล ทำให้คาดว่าราคาถ่านหินจะอยู่ที่ระดับ 70-80 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งเป็นระดับที่ธุรกิจเหมืองถ่านหินสามารถทำกำไรได้ดี (2) การคาดหมายกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 และปี 2560 ที่ฟื้นตัวตามทิศทางราคาถ่านหิน และการรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และ (3) ราคาหุ้นที่ปรับลดลง 23% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ BANPU มี Upside Gain มากถึง 32%
ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้น BANPU คาดกำไรไตรมาส 2/60 ที่ 2,396 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นเทียบ ไตรมาสก่อน เนื่องจากธุรกิจถ่านหิน คาดว่าจะมีปริมาณขายสูงขึ้นตามแผนการผลิตของเหมืองในอินโดนีเซียสูงขึ้น โดยปริมาณขายจากอินโดนิเซียคิดเป็นราว 2 ใน 3 ของทั้งหมด ช่วยชดเชยระดับราคาถ่านหินที่อ่อนตัวลง ส่วนธุรกิจไฟฟ้า ได้รับส่วนช่วยจากการเดินเครื่องที่มากขึ้นของโรงไฟฟ้าหงสา จากที่ไม่มีการหยุดซ่อมหน่วยที่ 2 ในช่วงไตรมาส 1/60 รวมทั้งรับรู้กำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ Deyuan เข้ามาเต็มไตรมาส จากที่เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไปในเดือนก.พ.60 อีกทั้งไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนมากอย่างที่ในไตรมาสแรก